“ธรรมนัส” ลุยบางซื่อ-ดุสิตมอบถุงยังชีพ 400 ชุด
“ธรรมนัส – นฤมล” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางซื่อและเขตดุสิต มอบถุงยังชีพ 400 ชุด
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ พร้อม ศาสตราจารย์ นฤมลภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และส.ส.พรรค นางสาวธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ ร่วมลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง บริเวณชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางซื่อและเขตดุสิต และมอบถุงยังชีพจำนวน 400 ชุด รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ชุมชนวัดบางโพ ชุมชนราชาทรัพย์ ชุมชนเขตบางซื่อ ชุมชนราชผา เชิงสะพานซังฮี้
พร้อมกันนี้ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่าการลงพื้นที่ในวันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องของการบ้าน ที่มาบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน เพื่อนำปัญหา ไปสู่การจัดทำนโยบาย เพื่อเข้าสู่ระบบการเมือง เพื่อทำนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชน พร้อมยืนยันว่า จะลงพื้นที่พบประชาชนทั้ง 30 เขต เลือกตั้งในพื้นที่ กทม. แม้ว่าบางเขตเลือกตั้งจะไม่มี ส.ส.ของพรรค และหาก รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ และมีกฎหมายลูก จะส่งผลให้เขตเลือกตั้ง เป็น 34 เขต
“ธรรมนัส” เผย “ประวิตร” รับฟังผู้เห็นต่าง พร้อมสั่งการนำปัญหามาแก้ไข ยืนยัน ส.ส.พปชร.รักกัน
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการลงพื้นที่ของหัวหน้าพรรค แล้วมีผู้ชุมนุมต่อต้าน ว่ามันเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งนักการเมืองจะต้องยอมรับในความเห็นต่าง และนำความเห็นมาแก้ไข อย่างที่หัวหน้าพรรคลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ก็ได้สั่งการให้นำปัญหาดังกล่าว มาศึกษาแก้ไข ซึ่งเป็นธรรมชาติของการเมือง อย่ามองผู้เห็นต่างเป็นศัตรู และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีวันนี้แล้วมี ผู้สูงอายุที่ต้องการเข้าไปใกล้กับนายกฯรัฐมนตรีแต่กลับถูกกันไม่ให้เข้าไป แต่ ลูกค้างที่ตัวเองลงพื้นที่ไปพร้อมกับหัวหน้าพรรค รู้จักกำชับให้ทีมงานว่ากันประชาชน เพราะหากยิ่งไปกีดกัน ก็เหมือนยิ่งไปห้าม
ทั้งนี้ กรณีที่เคยพูดในที่ประชุมพรรค หากยังมีปัญหาไม่ลงรอย อาจจะสู้พรรคก้าวไกลไม่ได้ แต่ยืนยันว่า ส.ส.ร้อยละ 99 รักกัน จะสังเกตได้ว่าทำกิจกรรมใดก็จะทำเป็นทีม ซึ่งภายในพรรคพลังประชารัฐมีหัวหน้าพรรคที่ใจถึงพึ่งได้ แล้วก็ต้องทำงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งศัตรูการเลือกตั้งทางการเมือง ไม่ใช่คนภายในพรรคพลังประชารัฐด้วยกัน แต่ต้องมองว่าจะไปสู้กับศัตรู ข้างหน้าอย่างไร โดยไม่ได้มองว่าพรรคใดพรรคหนึ่งหรือพรรคก้าวไกลเป็นศัตรู แต่เมื่อถึงสนามเลือกตั้ง เสมือนออกสนามรบ ที่จะทำอย่างไรให้ชนะใจชาวบ้าน ให้มากาเลือกพรรคพลังประชารัฐ
“ธรรมนัส” ยังเผยอีกว่า พปชร. มีความพร้อมส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นทุกเขต ส่วนผู้สมัครผู้ว่า กทม. อยู่ที่ดุลยพินิจของหัวหน้าพรรค
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการส่งผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ว่า ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ได้หารือกับ ส.ส.ของพรรค และว่าที่ผู้สมัครต้องเข้าไปดูแลประชาชน และหารือ กับคนที่ต้องการอาสามาเป็น ส.ก. โดยจะมาเป็นตัวแทนในนามพรรคหรือไม่นั้นค่อยว่ากันอีกที แต่ยืนยันว่าการเมืองท้องถิ่น เป็นพื้นฐานการเมืองระดับชาติ ดังนั้น ส.ส.ทุกคนจะต้องมีฐานเสียงเป็นของตัวเอง ซึ่งหมายถึงนักการเมืองท้องถิ่น และเปิดเผยว่า พรรคพลังประชารัฐ มีความพร้อมเต็มที่ สำหรับทีมงานในการลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นทุกเขต
ส่วนการส่งผู้ว่า กทม. อยู่ที่ดุลยพินิจของหัวหน้าพรรค และที่ความเห็นในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค พร้อมกันนี้ ยังฝากการบ้านให้กับผู้ว่ากทม. คนต่อไป ให้จัดการกับปัญหาขยะ ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งของเขตน้ำท่วม ในการระบายน้ำในพื้นที่ กทม. และปัญหารถติด ที่เป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และย้ำว่า คนที่เป็นผู้ว่า กทม. ต้องเป็นผู้ที่คลุกคลีกับรัฐบาล ไม่ใช่ทำตัวเป็นองค์กรอิสระ โดยไม่ได้หมายถึงผู้ว่าคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภาพรวมของผู้ที่จะมาทำหน้าที่นี้