สุริยะใส ยืนยัน สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ ยังไม่เสียชีวิต ขยับตัวได้นิดหน่อย

"สุริยะใส" ยืนยัน "สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์" อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ยังไม่เสียชีวิต ขยับตัวได้นิดหน่อย อาการน่าเป็นห่วงเพราะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด

วันนี้ (17 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์ประจำคณะนวัตกรรมสังคม และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กอัปเดตอาการป่วยล่าสุดของนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีเนื้อหาดังนี้

"ผมกับพี่พิภพ และแม่แอ๊ว รัชนี ธงไชย มาเยี่ยม อาการของ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่ รพ.กรุงเทพ-ราชสีมา (โคราช)

อาการล่าสุด (15.40 น) อาจารย์ขยับตัวได้นิดหน่อย แขนข้างซ้ายขยับได้บ้าง ได้มากกว่าข้างขวา และสามารถขยับเปลือกตาได้บ้าง

ผมได้วิดีโอคอล แล้วส่งกำลังใจให้อาจารย์ เหมือนอาจารย์จะพยายามขยับเอียงฟังผมพูด ซึ่งอาจเป็นการตอบสนองทั่วไปเท่านั้น

พี่หน่อย และลูกๆ บอกว่าอาการก็ยังน่าห่วงอยู่ ใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด ภาพรวมยังไม่ได้ดีขึ้น ก็คงต้องรอแพทย์ผู้รับผิดชอบจะวินิจฉัยอย่างไร

ผมจะอัพเดทอาการเรื่อยๆ ครับ ขอพวกเราส่งกำลังใจให้อาจารย์หายเป็นปกติโดยเร็วครับ

ขอบคุณครับ"

ทั้งนี้ มีรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ครอบครัวนำตัวนายสมเกียรติ​ พงษ์​ไพบูลย์​ วัย 71 ปี อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ส่งเข้ารักษาตัวฉุกเฉิน​ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-ราชสีมา โดยอาการเบื้องต้นไม่รู้สึกตัว ก่อนจะทราบในเวลาต่อมาว่าพบเส้นเลือดแตกบริเวณ​ก้านสมอง จนทำให้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาว่าอดีตแกนนำพันธมิตรฯ รายนี้เสียชีวิตแล้ว กระทั่งนายสุริยะใสเดินทางไปเยี่ยมและอัปเดตอาการดังกล่าว

ขณะที่ นางวัลลภา พงษ์ไพบูลย์ ภรรยานายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เปิดเผยว่า นายสมเกียรติมีอาการป่วยเส้นเลือดใหญ่บริเวณก้านสมองแตกเฉียบพลัน ภายในบ้านพักซอยสามยอด ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 15 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 23.00 น. โดยก่อนมีอาการป่วย นายสมเกียรติได้ดื่มน้ำอัดลมกระป๋องยี่ห้อหนึ่งที่แช่ในตู้เย็น โดยขณะที่ดื่มนายสมเกียรติมีอาการเสียวและปวดที่บริเวณสมองอย่างรุนแรง ตนประคองให้นอนพักแต่อาการไม่ดีขึ้นจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเพื่อให้แพทย์รักษา

แต่เนื่องจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทาง รพ.มหาราชนครราชสีมาจึงไม่อนุญาตให้ญาติผู้ป่วยเฝ้าอาการ ทางภรรยาและลูกจึงขอย้ายผู้ป่วยไปรักษาที่ รพ.กรุงเทพ-ราชสีมา แพทย์ได้นำตัวนายสมเกียรติเข้าห้องไอซียู ชั้น 3 และเอกซเรย์ CT Scan พบว่า เส้นเลือดใหญ่บริเวณก้านสมองแตก ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวแต่ยังมีสัญญาณชีพจร แพทย์ได้ให้ยากระตุ้นความดันและใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ญาติๆ ได้ประชุมร่วมกับคณะแพทย์ รพ.กรุงเทพ-ราชสีมา เพื่อหาทางรักษา โดยแพทย์ระบุว่าการผ่าตัดบริเวณก้านสมองมีความเสี่ยงสูงมาก และผู้ป่วยมีเลือดคลั่งในสมองระดับ 6 จึงรอการตัดสินใจของญาติว่าจะอนุญาตให้แพทย์ทำการผ่าตัดหรือไม่