อ้น ปัดรู้เห็นนาธานยืมเงินน้องอ้อมช่วยสึนามิ
แม่น้องอ้อมเด็กดักแด้ป้องนาธานสนิทกับครอบครัวแต่ไม่ขอพูดเรื่องเงิน ยายเจ้าของโฉนดที่อำนาจเจริญหลั่งน้ำตา โชว์หลักฐานนาธานไปหาถึงบ้านนอก แฉหมดเปลือกไปอ้อนวอนทั้งกอดทั้งให้ความหวัง บอกจะสร้างบ้านใหม่ให้อยู่สบาย เชื่อใจจึงยอมเอาที่ไปกู้เงินมาให้
วันที่ 12 พ.ย. หลังจากที่นางฉลอง จันทร์นาค อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 2 ต.พงสวาย อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นยายของนางสาวเสาวนีย์ ฤทธิโชติ อายุ 27 ปี หรือน้องอ้อม ที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังแห้งตกสะเก็ด และ มีเลือดไหลซึมตามแผล จนคล้ายกับเด็กดักแด้ ที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้ออกมาแฉเรื่องที่นายนาธาน โอมาน อดีตนักร้องชื่อดังได้หลอกยืมเงินไปรวมกว่า 100,000 บาท และยังต่อว่าเรื่องที่น้องอ้อมเสียชีวิต แต่นาธานไม่ยอมมาร่วมงานศพเลย
เรื่องนี้ นางสุพัตรา จันทร์นาค อายุ 41 ปี แม่ของน้องอ้อม ได้ออกมาพูดเรื่องดังกล่าวว่า ครอบครัวของตนนั้นสนิทกับนาธานมาก เพราะรู้จักตั้งแต่น้องอ้อมไปออกรายการทีวี และนาธานก็จะโทรศัพท์พูดคุยกับน้องอ้อมตลอด พาไปเที่ยวหลายครั้ง และอุ้มน้องอ้อมไปเดินเที่ยวโดยไม่รังเกียจ โทรศัพท์พูดคุยเล่าเรื่องต่างๆให้น้องอ้อมฟังตลอด และจะมาหาที่บ้านก็บ่อยครั้ง ในช่วงที่น้องอ้อมยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งทุกคนที่บ้านก็จะสนิทกับนาธานมาก
ยายเจ้าของโฉนดแฉหมดเปลือก นาธาน ไปถึงบ้าน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 พ.ย. นางสมาน สุขเสริม แม่บ้านลูกจ้างดารานักร้องชื่อดัง นาธาน ที่ตกเป็นข่าวถูกหลอกให้กู้เงินธนาคารไปให้นายนาธาน ยืม 3 แสนบาทได้เดินทางไปที่จังหวัดอำนาจเจริญพร้อมบุตรชาย เพื่อรวบรวมหลักฐานและนำความเข้าร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับนาธาน โดย พ.ต.อ.วีระพงษ์ พงษ์พุ่ม ผกก.สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้ตรวจหลักฐานต่างๆที่นางสมานมอบให้ อาทิ โฉนดที่ดิน/สัญญาเงินกู้เงิน และสลิปโอนเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สาขาอำนาจเจริญ เข้าไปบัญชีของนายนาธาน ในกรุงเทพฯ และได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธงฉัตร ระวะรัตน์ รอง ผกก.(สส.) ทำหน้าที่สารวัตรเวรเจ้าของคดีและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อนส่งให้ส่วนกลางต่อไป
นางสมาน กล่าวว่า เดินทางมาบ้านเกิดเพื่อรวบรวมหลักฐานที่นำไปจำนองธนาคารมาให้ตำรวจ เพื่อยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงพวกหลักฐานจะเป็นโฉนดที่ดินของแม่และญาติๆรวม 3 แปลงและสัญญาเงินกู้เงินของธนาคารหลายฉบับที่ตนเป็นคู่สัญญากู้เงิน ซึ่งได้ยืนยันกับตำรวจว่าในขั้นตอนการขอกู้เงินจากธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆนายนาธานรู้ดีทุกอย่าง เพราะเป็นคนแนะนำวิธีการโดยนายนาธานเดินทางมาที่บ้านในตำบลไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ จริงๆ เคยไปอ้อนวอนเจ้าของโฉนดให้ช่วยค้ำประกันให้ไม่ใช่การลวงโลกใส่ร้ายนายนาธาน
พ.ต.อ.วีระพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบหลักฐานการทำสัญญากู้เงินจริง เป็นการกู้จากธนาคารกรุงเทพ.สาขาอำนาจเจริญ 1 แสนบาทแล สหกรณ์แห่งหนึ่ง 1 แสนบาท นอกนั้นเป็นเงินกู้จากบริษัทที่ปล่อยกู้ทั่วไปรวมแล้ว ประมาณ 3 แสนบาทเศษ โดยมีหลักฐานการโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มจากพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญไปยังบัญชีธนาคารเงินฝากในสาขากรุงเทพฯ ตำรวจจะได้ขอหลักฐานต่างๆจากธนาคารและบริษัทปล่อยกู้เป็นทางการอีกครั้งเพื่อรวบรวมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 42 ม.8 ต.ไก่คำ อ.เมืองอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นบ้านของนางปิ่น สุขเสริม อายุ 82 ปี แม่ของนางสมานอดีตแม่บ้านนายนาธาน สภาพบ้านเป็นไม้เก่าๆแบบโบราณที่ยกพื้นสูง ใต้ถุนบ้านมีนางปิ่นซึ่งหูหนวกนั่งอยู่ในสภาพเศร้าซึม และเมื่อทราบว่าผู้สื่อข่าวมาสอบถามเรื่องเรื่องลูกสาวเป็นข่าวถูกหลอกต้มเงิน นางปิ่นได้ร้องไห้ขึ้นมาทันที อยู่ในสภาพฟูมฟายน้ำตาไหลตลอด และกล่าวอ้อนวอนให้ผู้สื่อข่าวช่วยเหลือ
นางปิ่น ได้กล่าวยืนยันว่า มีการกู้เงินธนาคารไปให้นายนาธาน เป็นเรื่องจริง และนายนาธาน ก็เคยมาที่บ้านทำทีเอาใจหลายหนทุกครั้งจะประจบสอพลอสวมกอดให้ความหวังทุกอย่าง แม้กระทั่งบ้านที่เก่าๆโทรมๆหลังนี้ นายนาธาน ก็เคยออกปากจะสร้างหลังให้ใหม่ด้วย
นางปิ่น บอกว่า นายนาธานเคยไปดูที่นาก่อนหลายแปลงก่อนเข้าไปขอกู้จากธนาคาร ถ้านายนาธานยังรักยายตามที่กอดและพูดไว้ให้นำเงินมาไถ่ที่นาโดยด่วนก่อนธนาคารจะยึดนาไปจากยาย
จากนั้นนางปิ่น ได้ขึ้นไปบนบ้านนำรูปถ่ายที่นายนาธาน เคยมาพักที่จังหวัดอำนาจเจริญ ออกให้ผู้สื่อข่าวดูเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า นายนาธาน ได้มาที่บ้านใน จ.อำนาจเจริญจริง โดยหลักฐานภาพถ่ายมีหลายภาพ บางภาพมีลายเซนต์ของนายนาธานที่มอบให้หลานๆยาย
ส่วนชีวิตของนางสมาน สุขเสริม นางปิ่น เล่าว่า ได้แต่งงานกับคนบ้านเดียวกัน แต่สามีเลิกร้างไปมีลูกด้วยกัน 3 คน คือนายอาทิตย์ กุลฝ้าย อายุ 25 ปี นายโชคชัย และนายเชิดชัย กุลฝ้ายที่เป็นฝาแฝดอายุเท่ากัน 18 ปี และเมื่อ 10 ปีก่อนนางสมานหอบลูกคนโตไปทำงานที่กรุงเทพฯไปรับจ้างสารพัดพอได้เงินก็ส่งเงินมาให้แม่และมอบพี่สาวเลี้ยงลูกแทน ต่อมาจึงได้ยินข่าวว่า ได้เป็นแม่บ้านของดารานักร้องชื่อดังทางพี่สาวและแม่ก็ดีใจอย่างมาก และได้รู้จักกับนาธานจนมีการติดต่อกันเรื่อยมาไม่คิดว่าจะมาทำร้ายกันถึงเพียงนี้
ทนายแนะผู้เสียหายรวมตัวเอาผิด นาธาน
ร.ต.ร.ต.ต.ปิยเชษฐ์ เลื่อนพลับ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.หัวหมาก กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความผิดทางแพ่ง ที่จะต้องไปฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยกันเอง ซึ่งทางตำรวจได้พยายามช่วยประสานที่จะให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาพบเจรจาตกลงยอมความกัน เพราะเรื่องนี้สามารถยอมความกันได้ แต่ไม่สามารถติดต่อกับฝ่ายของนักร้องชื่อดัง และมารดาบุญธรรมของนักร้องผู้นี้ได้เลย จึงได้แต่แนะนำให้ไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อศาลแพ่ง ซึ่งทางฝ่ายผู้เสียหายก็เข้าใจ
ด้าน นายเสงี่ยม บุญจันทร์ เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า การที่ผู้เสียหายไม่มีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวพันถึงผู้ถูกกล่าวหา จนไม่สามารถจะเอาผิดทางคดีอาญาได้ แต่หากมีผู้เสียหายที่ถูกผู้ถูกกล่าวหา หลอกลวงเอาทรัพย์สินไปจำนวนหลายราย สามารถที่จะรวมตัวกันไปแจ้งความไว้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบกว้างตำรวจท้องที่ อย่างกองปราบฯ หรือ ดีเอสไอ เพื่อรวมเป็นคดีเดียวกัน และใช้วิธีการสืบสวนถึงพฤติกรรมของผู้ถูกกล่าวหา ที่ใช้ลักษณะการหลอกลวงเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยไม่มีการทำหลักฐานอะไร เข้าข้ายลักษณะใช้อุบายล่อหลอกเอาทรัพย์ของผู้อื่น ซึ่งสามารถนำสืบจากประจักษ์พยานที่รู้เห็นเหตุการณ์ชี้ยืนยันการกระทำของผู้ถูกกล่าวหา มาเป็นหลักฐานในการเอาผิดทางคดีอาญา ในข้อหาฉ้อโกงได้
อ้น ปัดรู้เห็นนาธานยืมเงินน้องอ้อมช่วยสึนามิ
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 12 พ.ย. นายสราวุธ มาตรทอง หรือ อ้น พระเอกซิทคอมชื่อดัง "เทวดาสาธุ" ให้สัมภาษณ์กรณีถูกพาดพิงว่ามีส่วนรู้เห็นกับนายนาธาน ไปยืมเงิน "น้องอ้อม" ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้ทั้งสิ้น เพราะหลังเกิดสึนามิตนกับกลุ่มเพื่อนๆดารา รวมไปถึงพี่ๆนักข่าวก็ได้ช่วยกันหาเงินบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเฉพาะหมู่บ้านมอร์แกนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเงินที่มานั้นจากการขายเสื้อ จากการบริจาคจากผู้ใหญ่และหน่วยงานต่างๆทุกบาททุกสตางค์ ก็นำไปบริจาคร่วมกันไม่ได้นำไปคนเดียวและมีคนเห็นเรานำไปบริจาคจริงๆ
"แต่อยู่ๆ ผมกลับมาถูกพูดพาดพิงทำนองว่ามีส่วนรู้เห็นกับนายนาธานไปหลอกยืมเงินน้องอ้อมทั้งที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ได้ยินแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจจึงอยากออกมาชี้แจงเพราะหากไม่ออกมาชี้แจงอาจทำให้ทุกคนเข้าใจตนไปในทางที่ผิด และขอยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน" อ้น สราวุธ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากฝากอะไรถึงนาธานหรือไม่ นายสราวุธ กล่าวว่า ตนไม่ได้โกรธอะไรแต่ก็ยังงงว่ามันเกี่ยวข้องกับตนด้วยเหรอ อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้บอกกับเขาไปว่าขอให้น้องดูแลชีวิตให้ดี เขาก็ยังหัวเราะ ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรและไม่ต้องการที่จะได้รับคำตอบจากเขาเพราะตนหวังดีให้กับเขา