ธรรมนัส ส่งไลน์บอก "ส.ส.พปชร." อย่าตกเป็นเหยื่อโซเชียล ยันไม่ได้ทำโพลเพื่อแกล้งใคร
"ผู้กองธรรมนัส" ส่งไลน์บอก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ "อย่าตกเป็นเหยื่อของโลกโซเชียล" ยืนยันไม่ได้ทำโพลเพื่อกลั่นแกล้งใคร
แหล่งข่าวภายในพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐได้ส่งข้อความในกลุ่มไลน์ ส.ส.พรรค เพื่อชี้แจงกรณีพรรคทำโพล ส.ส. เพื่อประเมินผลงาน โดยข้อความดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้
“เรียน ท่าน ส.ส.พปชร.ทุกท่าน ท่านหัวหน้าฝากแจ้งท่าน ส.ส.ทุกๆ ท่านว่า อย่าตกเป็นเหยื่อของโลกโซเชียลนะครับ ตั้งใจทำหน้าที่ผู้แทนของพี่น้องประชาชนให้เต็มที่
ส่วนเรื่องการทำโพลเพื่อประเมินการทำหน้าที่ของ ส.ส.แต่ละเขต เป็นเรื่องที่ท่านหัวหน้ามีดำริให้ทำ แต่เป็นเรื่องภายในพรรค พปชร. ซึ่งจะต้องใช้สำนักโพลที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของสังคมเป็นผู้ทำ โดยไม่มีการกลั่นแกล้งท่าน ส.ส.ผู้ใดทั้งนั้น จึงฝากเรียนท่าน ส.ส.ทุกท่านด้วยความเคารพ และความห่วงใยครับ”
ส.ส.หวั่นขาใหญ่ในพรรคมีธง หวังใช้โพลกดดัน
ทั้งนี้ การที่ "ผู้กองธรรมนัส" ส่งข้อความในกลุ่มไลน์ของ ส.ส. พลังประชารัฐ ดังกล่าวนั้น เนื่องจากเมื่อวานนี้มีข่าวแพร่สะพัดออกมาว่า พรรคพลังประชารัฐมอบหมายหน่วยงานของรัฐบางแห่งในแต่ละพื้นที่ อาทิ หน่วยงานด้านการศึกษา และหน่วยงานความมั่นคง ดำเนินการทำโพลเพื่อวัดกระแสความนิยมของ ส.ส.ในพรรค
ซึ่งมีกระแสข่าวว่า แกนนำในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ให้น้ำหนักกับพื้นที่ กทม. และภาคใต้ เป็นพิเศษ เนื่องจากมองว่า ส.ส.ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับเลือกมาเพราะกระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช่ได้เป็นส.ส. เพราะความสามารถและมีฐานเสียงเป็นของตัวเองแต่อย่างใด แตกต่างจาก ส.ส. ภาคเหนือและอีสาน ที่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งถูกมองว่าได้เป็น ส.ส. เพราะปัจจัยอื่นที่นอกเหนือจากกระแสของ พล.อ.ประยุทธ์
นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกด้วยว่า สำหรับผลโพลที่พรรคประชารัฐทำในพื้นที่ภาคใต้นั้น พบว่าจาก ส.ส.ของพรรคทั้งหมด 14 คน ปรากฏว่ามีผู้ที่ผ่านเกณฑ์เพียง 4 คนเท่านั้น ได้แก่ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส นายวัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา และนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช ซึ่ง ส.ส.ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ยังไม่ได้รับคำแนะนำใดๆ ในการเสริมจุดอ่อนของตัวเอง
ขณะที่ ส.ส.บางคนที่ทราบความเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคกลุ่มดังกล่าว ต่างตั้งข้อสังเกตถึงเจตนาที่แท้จริงในการทำโพลครั้งนี้ รวมถึงความแม่นยำของการทำโพลลักษณะนี้ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ส่ง ส.ส.เจ้าของพื้นที่เดิมลงเลือกตั้งในนามพรรคครั้งต่อไปหรือไม่ เนื่องจาก ส.ส. หลายคน ไม่ใช่คนในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส รวมถึงยังมีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า การทำโพลดังกล่าวจะถูกใช้เป็นเงื่อนไขกดดันให้ ส.ส.มาขึ้นตรงกับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส มากขึ้น แลกกับโอกาสในการส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งต่อไปหรือไม่อีกด้วย