โลกงง? รัฐบาลทหารเมียนมาปล่อยตัวนักโทษการเมือง จับกลับไปขังอีก 110 คน
มีคนที่เพิ่งถูกปล่อยตัวถูกจับขังอีกครั้งจำนวนกว่า 110 คน โดยส่วนใหญ่ถูกจับ “เกือบจะทันที” หลังจากถูกปล่อยตัว
ก่อนหน้านี้ มิน อ่อง หล่าย ผู้นำคณะรัฐประหารทหารเมียนมาประกาศบอกโลก ว่าจะปล่อยตัวประชาชนผู้ต่อต้านรัฐประหารที่ถูกรัฐบาลทหารจับขังตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยบอกว่าจะปล่อยนักโทษทั้งหมด 5,636 คน ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ต.ค) อ้างเหตุผลด้านมนุษยธรรม พร้อมย้ำด้วยว่ารัฐบาลของตนยึดมั่นในสันติและประชาธิปไตย
แต่สำนักข่าวรอยเตอร์สและสื่อท้องถิ่นในเมียนมารายงานว่า แม้รัฐบาลทหารเมียนมาจะปล่อยนักโทษการเมืองจริง ทั้งนักศึกษา นักข่าว และนักการเมือง โดยหนึ่งในนั้นมีโฆษกของพรรค NLD ของออง ซาน ซูจี และนักแสดงตลกชื่อดัง แต่ในวันเดียวกันกลับมีการจับกุมคนที่เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมา
สำนักข่าวเมียนมา Myanmar Now รายงานว่า ณ วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 ต.ค.) มีคนที่เพิ่งถูกปล่อยตัวถูกจับขังอีกครั้งจำนวนกว่า 110 คน โดยส่วนใหญ่ถูกจับ “เกือบจะทันที” หลังจากถูกปล่อยตัว
“นักโทษบางคนที่ถูกปล่อยตัว เมื่อพวกเขากลับไปถึงบ้าน เจ้าหน้าที่ก็จับกุมตัวพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง นักโทษบางคนได้รับการแจ้งว่า พวกเขากำลังจะถูกปล่อยตัว และถูกพาไปยังประตูหน้าเรือนจำ แต่แล้วเจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมและจับพวกเขาคุมขังอีกครั้ง”
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองในเมียนมา (Assistance Association for Political Prisoners - AAPP) ระบุข้อมูลข้างต้นไว้ในคำแถลงการณ์ โดยบอกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นรูปแบบหนึ่งของการทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจของนักโทษการเมือง รวมทั้งครอบครัวของพวกเขาที่ต่างตั้งตารอวันที่จะได้เจอกัน ขณะนี้ AAPP ยังคงติดตามสถานการณ์ของคนที่เพิ่งถูกปล่อยตัวคนอื่นๆ บางคนกำลังหลบซ่อนตัวเพราะกลัวว่าจะถูกจับอีกครั้ง
การปล่อยตัวนักโทษของมินอ่องหล่ายน์ถูกวิจารณ์ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ว่าไม่ใช่เพราะเรื่องมนุษยธรรมหรือสันติอะไรตามที่มินอ่องหล่ายน์แถลง เพราะความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกอาเซียนบรรลุข้อตกลงเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ในการประกาศตัดมินอ่องหล่ายน์ออกจากการร่วมประชุมสุดยอดผู้นำที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ต.ค.นี้
ทอม แอนดรูว์ ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ ทวีตหลังทราบข่าวการปล่อยตัวนักโทษการเมืองว่า “รัฐบาลทหารกำลังปล่อยตัวนักโทษการเมืองในเมียนมา ไม่ใช่เพราะเปลี่ยนใจ แต่เป็นเพราะแรงกดดัน”
ล่าสุดสหราชอาณาจักรในฐานะประธาน G7 กลุ่มประเทศประชาธิปไตยชั้นนำของโลก มีความชัดเจนที่จะไม่ต้อนรับคณะรัฐประหารเมียนมา และขอประณามการยึดอำนาจจากประชาชน พร้อมดำเนินการสอดคล้องการตัดสินใจของอาเซียน ไม่ขอเชิญผู้แทนเมียนมาร่วมประชุม G7-ASEAN ธ.ค.นี้