ตำรวจ-ทหารตามล่านักโทษชาย หลบหนีจากสถานที่กักตัว พบ 1 ใน 5 ติดโควิดลงปอด

ระดมกำลังตามล่า 5 นักโทษชาย หลบหนีจากสถานที่กักตัว พบ 1 ใน 5 ติดโควิดลงปอด 

(25 ต.ค.64) เมื่อเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำเรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ แจ้งว่า มีนักโทษชาย 5 คน หลบหนีขณะทำการกักตัว

หลังจากได้รับแจ้งแล้ว  นายฉลาด อ่อนหัวโทน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุรินทร์ ได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 25 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางสุรินทร์ กว่า 150 นาย กระจายกำลังออกค้นหาผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ซึ่งถูกคุมขังในคดียาเสพติดและลักทรัพย์

เจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกค้น และแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร รอบเรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน โดยเฉพาะชุมชนที่มีป่าไม้ ซึ่งคาดว่าผู้ต้องขังจะใช้ในการหลบซ่อนตัว จนกระทั่วเวลา 13.00 น.เจ้าหน้าที่ก็รับแจ้งจากครูโรงเรียนโคกมะเมียน ต.นอกเมืองว่าพบผู้ต้องหา หลบซ่อนในโรงเรียน จำนวน 1 คน ภายในหมู่บ้าน หลักวอ 1คน ทางเส้นทางไปมหาวิทยาลัยรามคำแหงวิทยบริการ ราม1 คน และอีก 2 คน จับกุมได้ที่บริเวณสะพานข้ามทางรถไฟหรือสะพานดาว ใกล้กับชุมชนหมอกวน ในเมืองสุรินทร์ ขณะขับรถจักรยานยนต์หลบหนี

นายฉลาด อ่อนหัวโทน ผู้บัญชาการเรือนจำกล่าวกับผู้สื่อข่าว ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้หลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน ขณะกักตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่หลายหน่วยได้ทำการจับกุมตัวได้ทั้งหมดช่วงเวลาบ่ายโมง และนำตัวไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองสุรินทร์ และนำมาคุมขันในเรือนจำกลาง โดยแยกให้อยู่ในเรือนนอนที่ทางเรือนจำกลางสุรินทร์ จัดเป็นสถานที่กักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อโควิดโดยเฉพาะ

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงผู้ต้องหาที่ติดเชื้อโควิดภายในเรือนจำกลาง ถึง 700 ราย ตามที่มีการเผยแพร่สื่อโซเชียล นายฉลาด กล่าวว่า เรือนกลางสุรินทร์ ได้มีการตรวจหาเชื้อและทางโรงพยาบาลสุรินทร์ ได้เข้ามาดำเนินการจัดเรือนนอนและที่กักตัวตามมาตรการสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด ซึ่งเรือนจำกลางสุรินทร์ มีนักโทษคุมขังภายในเรือน จำนวน 1,500 คน ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหานักโทษที่หลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวโคกกตาบัน มี 1 คน ที่เชื้อโควิด-19 ลงปอดแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงต้องสวมชุดพีพีอีและรถอาสากู้ภัย ในการนำตัวส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ สำหรับเรือนจำชั่วคราวโคกตาบัน ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษชั้นดี รอการปล่อยตัว แต่ในช่วงที่เชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ระบาด เรือนจำกลางสุรินทร์ ได้ใช้เป็นสถานที่ในการกักตักตัวนักโทษที่ติดเชื้อโควิด-19