พปชร.ยอมรับเตรียมปรับโครงสร้าง-"วิรัช" ไม่เชื่อจะเปลี่ยนเลขาธิการพรรคเป็น "สุชาติ"
“วิรัช” เชื่อไม่เปลี่ยนเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐเป็น “สุชาติ” ตามข่าวลือ ชี้ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค ไม่ตอบนายกฯ มีส่วนออกความเห็นในพรรค
วันนี้ (26 ต.ค.) นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีการกดดันให้กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐลาออกจากตำแหน่งว่า ตั้งแต่เห็นข่าวจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการสั่งการใดจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค จึงยังไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร และคิดว่าคงไม่ถึงขั้นเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคเป็นนายสุชาติ ชมกลิ่น ตามที่มีกระแสข่าว
ส่วนกรณีนี้เกิดจากการทำโพลสำรวจความเห็นประชาชนต่อ ส.ส.ของพรรคหรือไม่นั้น นายวิรัช กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่ง คือ พรรคพลังประชารัฐเกิดจากการหล่อหลอมของสมาชิกที่มาจากหลายส่วน บางครั้งการจะรวมกันได้ก็ต้องผ่านการเลือกตั้งกันมาและเชื่อว่าเมื่อผ่านไปหลายครั้งก็จะดีขึ้น ดังนั้นวันนี้คงไม่สามารถพูดอะไรไปได้มากกว่านี้ ถ้าตรงนี้แก้ไขแล้วเดินได้ดีก็ควรแก้ไข แต่ถ้าแก้ไขแล้วเกิดความวุ่นวายก็ไม่ควรแก้ไข และเหตุการณ์นี้ก็ไม่ทราบว่าเป็นความพยายามของรัฐมนตรี 6 คนที่เข้าพบนายกรัฐมนตรีหรือไม่
ส่วนระยะเวลา 3-4 เดือนของการดำรงตำแหน่งของกรรมการบริหารพรรค มีความเหมาะสมในการปรับเปลี่ยนหรือยังนั้น รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบว่า ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค ส่วนที่มีข่าวการเปิดไฟเขียวให้มีการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคนั้น ย้ำว่าไม่ทราบ และไม่ขอตอบคำถามที่ว่านายกรัฐมนตรีมีส่วนในการออกความเห็น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องภายในพรรคพลังประชารัฐ
นอกจากนี้ นายวิรัช ยังกล่าวถึงเสถียรภาพของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ขณะนี้ใกล้เปิดประชุมสภาสมัยสามัญแล้ว อะไรที่เป็นความขัดแย้งหากงดได้ก็ดี แต่หากงดไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะย้ายไปพรรคเพื่อไทยในสมัยหน้านั้น ขอฝากไปถึงคนที่เต้าข่าวว่าอยู่ตรงนี่ดีที่สุดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีความคิดจะย้ายไปพรรคเพื่อไทยเลย
ขณะที่ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุถึงกระแสข่าวการปรับโครงสร้างพรรค ว่า เป็นเรื่องที่พรรคกำลังพิจารณาอยู่ โดยขณะนี้คณะกรรมการบริหารพรรคได้มีการหารือร่วมกันอย่างถี่ถ้วน และจะมีการปรับโครงสร้างพรรคในเร็วๆ นี้ เพื่อให้การทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกของพรรคเป็นไปตามยุทธศาสตร์และแนวนโยบายของพรรค
ส่วนความชัดเจนว่าจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดหรือไม่นั้น ขอให้รอคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาแล้วเสร็จก่อน
ด้าน นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับโครงสร้างพรรคด้วยการให้กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันลาออกเกินครึ่งหนึ่งว่า อยู่ที่การไตร่ตรองของกรรมการบริหารพรรคที่สมาชิกได้มอบหมายอำนาจไว้ให้แล้ว ส่วนกรรมการชุดนี้จะพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ ก็อยู่ที่การตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่
ส่วนกรณีที่มีชื่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น จะขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่นั้น ก็อยู่ที่สมาชิกส่วนใหญ่เช่นกัน ส่วนตัวเห็นว่าจะเป็นใครก็ได้ ขอให้เป็นสมาชิกส่วนใหญ่เลือกขึ้นมา