ทั้งพระทั้งโยมเล่าประสบการณ์ขนลุก ยันป่าช้าวัดกัลยาณธรรมเฮี้ยนจริง ถึงขั้นต้องย้ายกุฏิ

ทั้งพระทั้งโยมเล่าประสบการณ์ขนลุก ยันป่าช้าวัดกัลยาณธรรมเฮี้ยนจริง ถึงขั้นต้องย้ายกุฏิ

ทั้งพระทั้งโยมเล่าประสบการณ์ขนลุก ยันป่าช้าวัดกัลยาณธรรมเฮี้ยนจริง ถึงขั้นต้องย้ายกุฏิ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้ากรณีที่พระลูกวัด ของ วัดกัลยาณธรรม ตำบลหนองตะครอง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกผีหลอกขณะเข้าไปทำวัตรกักตัวอยู่ในป่าช้าเก่าหลังวัด เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด จึงอยากปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข และเพื่อความสบายใจของพระในวัดด้วย จึงสมัครเข้าไปกักตัวเองในป่าช้าเก่า แต่กลับเจอผีหลอกตั้งแต่คืนแรก ถึงขั้นที่หลวงพี่ต้องสวดแผ่เมตตาให้กับดวงวิญญาณดังกล่าวจึงสามารถทำวัตรได้

ล่าสุดวันนี้ (26 ต.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณธรรมอีกครั้ง พร้อมกับพระลูกวัดและชาวบ้านใกล้เคียงก็ได้เดินเข้าไปในป่าช้าเก่า ซึ่งเป็นบริเวณที่พระชุมพรใช้สำหรับกักตัว ซึ่งตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรผิดปกติและไม่ได้ยินเสียงอะไร ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านคนหนึ่ง ที่พาเดินเข้ามาในป่าช้า ก็ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตัวเธอเองเคยเจอ เป็นผู้หญิงชุดขาวมายืนหน้าจอมปลวกในป่าช้า ตอนที่เธอเข้าไปขุดหาร่างของลูกชาย คนแรกที่เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก ที่นำมาฝังไว้ที่ป่าช้าแห่งนี้ซึ่งก็ผ่านมาหลายปีแล้ว เท่าที่รู้ในป่าช้านี้ได้ฝังร่างเด็กที่เสียชีวิตประมาณ 5 คน มีตั้งแต่ 1 - 5 ขวบ ซึ่งชาวบ้านคนดังกล่าวบอกว่าส่วนตัวได้ขุดนำร่างของลูกชายไปทำบุญแล้ว แต่อีก 4 ศพก็ไม่รู้ว่าญาติพี่น้องจะมาขุดหาร่างไปทำบุญหรือยัง เมื่อถามเธอว่าเชื่อเรื่องผีหรือไม่เธอบอกว่าเชื่อและมีจริง เพราะเคยเจอกับตัวเอง หลังจากนั้นก็ไม่กล้าเข้ามาในป่าช้าแห่งนี้คนเดียวอีก

ขณะที่ นายสุรศักดิ์ คงสุมาตร อายุ 43 ปี ชาวบ้านหนองกี่น้อย เล่าว่า ตนเคยบวชพระที่วัดแห่งนี้ เมื่อปี 2553 ตอนพรรษาแรกที่ตนเองได้อยู่ที่กุฏิใกล้กับป่าช้าเก่า ก็เคยโดนหลอกถึง 3 คืนติดต่อกัน ทั้งเสียงดังบนหลังคา และเสียงคล้ายกับมีคนเดินขึ้น-ลงกุฏิ พอออกมาดูก็ไม่เห็นมีใคร ส่วนเสียงดังบนหลังคา ตื่นเช้ามาดูก็ไม่เห็นมีกิ่งไม้หรือสิ่งของตกใส่หลังคาเลย ได้ยินแบบนี้อยู่ 3 คืนติด หากถามว่าตอนนั้นกลัวมั้ยยอมรับว่ากลัวเพราะเพิ่งจะบวชใหม่ ตอนนั้นก็ได้แต่สวดมนต์กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้กับดวงวิญญาณดังกล่าวเพราะเชื่อว่าน่าจะมาขอส่วนบุญส่วนกุศล พอไปถามพระกุฏิข้างๆ กันก็บอกว่าเจอเหมือนกัน จนพระรูปดังกล่าวขอย้ายไปอยู่ที่ศาลาวัดแทน ตัวเองก็เลยขอย้ายไปอยู่กุฏิอื่นที่ไม่ได้อยู่ใกล้กับป่าช้าเหมือนกัน หลังจากบวชได้ 2 พรรษาก็สึก พอกลับไปถามพระที่บวชทีหลังก็บอกว่าเจอหลอกเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะโดนหลอกในวันพระใหญ่ หลังจากนั้นตนก็ไม่เคยเข้าไปในป่าช้าดังกล่าวอีกเลยโดยเฉพาะตอนกลางคืนเพราะเชื่อว่ามีผีในป่าช้า ถึงแม้จะไม่ได้ปรากฏให้เห็นเป็นตัวตนแต่เสียงที่ได้ยินก็รู้สึกได้ว่าไม่ใช่คนแน่นอน 

สอบถามพระตรี ฉันทะธัมโม พระลูกวัดอีกรูป บอกว่า ตอนที่บวชพรรษาแรก ก็ได้ยินเสียงคล้ายกับคนกระโดดจากต้นไม้ใหญ่หน้ากุฎิ และมาเคาะกุฎิเสียงดังมาก มาถึงสองครั้ง ก็นึกว่ามีใครมาแกล้งหรือเปล่า เอาไฟฉายไปส่องดูก็ไม่เห็นมีใคร แต่หลังจากอาตมาสวดมนต์กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ ระยะหลังก็ไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไรแปลก ก็จะมีบ้างในวันพระใหญ่ แต่ทุกวันนี้ก็ชินแล้วไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร

ส่วนพระชุมพร ที่เข้าไปกักตัวในป่าช้าแล้วโดนผีหลอกนั้น ก็ยังคงกักตัวต่อในป่าช้าเหมือนเดิม โดยคืนนี้พระชุมพร บอกว่าจะเอาน้ำ เอานม ได้สวดอุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณที่เชื่อว่ามาสื่อสารเพื่อขอส่วนบุญส่วนกุศล ส่วนประวัติของป่าช้าแห่งนี้อาตมาก็ไม่ค่อยจะทราบเพราะส่วนใหญ่จะอยู่ที่สุโขทัย แต่เท่าที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสเล่าให้ฟัง ท่านก็บอกว่าเคยมีพระ และชาวบ้านเจอกันหลายคน

 

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ ทั้งพระทั้งโยมเล่าประสบการณ์ขนลุก ยันป่าช้าวัดกัลยาณธรรมเฮี้ยนจริง ถึงขั้นต้องย้ายกุฏิ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook