พระพยอม เตือนสติ พระอ้างรู้วันละสังขารลูกศิษย์ สร้างโลงแก้วรอ เป็นศาสนาเนื้องอก
พระพยอม เตือนสติ พระสำนักสงฆ์อ้างรู้วันละสังขารลูกศิษย์ สร้างโลงแก้วรอ ชี้เป็นศาสนาเนื้องอก ไม่เกิดคุณเกิดประโยชน์ต่อพระศาสนา
เมื่อเวลา 14.30 น. (28 ต.ค.64) ที่ลานบัว วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อสอบถามความคิดเห็นถึง กรณีที่ลูกชายร้องสื่อว่า พระอุตริหลอกแม่ให้รู้วันตาย สร้างโลงแก้วรอเพื่อละสังขาร ในวันที่ 30 ต.ค.64 เวลา 08.00 น. โดยลูกชายเกรงว่าแม่จะถูกวางยา ซ้ำแม่ยังนำเงินเก็บเกือบ 300,000 บาท ไปบริจาคให้สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ที่ จ.อุดรธานี
พระราชธรรมนิเทศ กล่าวว่า การละสังขารหมายถึงการรู้ว่าวาระอายุขัยหมดแล้ว อยู่ไปก็ไร้ประโยชน์ ตัวอย่างหลวงพ่อพุทธทาสท่านไม่ได้รู้วันเวลาแบบนี้ ท่านรู้แต่ว่าสังขารไม่ไหวจะต้องไปจึงได้เรียกลูกศิษย์มาคืนกุญแจและสั่งเสียเพื่อเตรียมตัวตาย จากนั้นท่านก็จากไปด้วยความสงบ ส่วนกรณีอื่นก็มีบ้างที่พระนั่งละสังขาร ส่วนที่จะกำหนดวันเวลานั้นมันเกิดเหตุไป คนเราเมื่ออายุขัยหมดแล้วก็ต้องปลงอยู่ไปก็ไร้ประโยชน์ เช่นคนที่ป่วยติดเตียงบางคนคิดว่าอยู่ไปก็เดือดร้อนคนอื่น
พระราชธรรมนิเทศ กล่าวต่อว่า ในทางศาสนาพุทธคนที่ปฏิบัติธรรมจนรู้วันเวลาละสังขารได้เลยนั้นมีน้อยมาก ล้านคนจะมี 1 คน หรือแทบจะหาไม่ได้เลย แต่ที่เตรียมตัวตายนั้นมี ถ้าลูกชายสงสัยว่าทางวัดหลอกเอาเงินบริจาคของแม่นั่นก็เป็นไปได้ มีบางแห่งทำพฤติกรรมแบบนี้ และที่สงสัยว่าแม่จะถูกวางยาวันที่ตายก็ตรวจชันสูตรศพแม่เพื่อพิสูจน์ว่ามีสารพิษหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ปล่อยท่านไป การกำหนดว่าสามารถละสังขารได้ก็มีบ้างแต่เป็นการปลงใจมากกว่าว่าอยู่ไปก็ไร้ประโยชน์ การสอนลูกสาวให้ละสังขารด้วยถือว่าผิดหลัก ไม่มีในพระไตรปิฎก ลูกอายุยังน้อยยังมีอายุขัยอีกนาน ไปรู้ได้อย่างไรว่าวาระลูกเขาหมดแค่นั้น
พระราชธรรมนิเทศ เตือนสำนักสงฆ์ และวัดต่างๆ ว่าให้อยู่กับหลักเกณฑ์ที่ตามคำสอนของพระไตรปิฎก อย่าสอนให้เป็นฤทธิ์จนชาวบ้านที่ไปประพฤติพลัดหลักคำสอน การทำให้ชาวบ้านไปคลำหาฤทธิ์จนไม่ถูกทิศถูกทาง เพราะฉะนั้นให้สอนให้อยู่ในทาง เรื่องอริยะสัจ 4 ศีลสมาธิปัญญา ตามคำสอนขอศาสนา อย่าเอาเรื่องลึกลับปฏิหาริย์มาเจือปนมันเป็นเนื้องอก อย่าให้มีศาสนาเนื้องอกพวกนี้เลย มันไม่เกิดคุณเกิดประโยชน์ต่อพระศาสนาและศาสนิกชน รวมทั้งตัวผู้สอนเอง