สื่อนอกชี้ทักษิณคบเขมรทำเสียคะแนน
ปทีป ติวเข้มตำรวจนครบาลคุมม็อบเสื้อเหลือง ยันไม่มีเหตุรุนแรง ไม่พบมือที่สามก่อกวนสร้างสถานการณ์ สั่งตรึงกำลังรอบนอก-ในท้องสนามหลวง พร้อมตั้งด่านตรวจค้นอาวุธ-รถต้องสงสัยทั่วกรุง
(15พ.ย.) การชุมนุใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ท้องสนามหลวง เพื่อต่อต้านการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้มา มีประชาชนจากหลายจังหวัดสวมเสื้อหลากสี แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นสีเหลืองและสีชมพู มาร่วมชุมนุมจนเต็มพื้นที่ท้องสนามหลวงฝั่งวัดพระแก้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจปราบจลาจล ประจำการรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่การชุมนุม
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ตามกำหนดการจะเริ่มเวลา 17.00 น.โดยแนวร่วมพันธมิตรฯประกาศเจตนารมย์ จากนั้นมีการปราศรัยสลับการแสดงคนตรี กระทั่งเวลา 19.00 น.จะมีการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "จากทักษิโนมิค ถึง ฮุนเซนโมเดล" โดยนายคำนูณ สิทธิสมาน และเวลา 19.40 น.ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทำไมต้องสู้เพื่อในหลวง" โดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล จากนั้นเวลา 21.00 น.จะมีการอ่านแถลงการณ์เจตนารมย์ปกป้องเกียรติภูมิของชาติของกลุ่มพันธมิตร และสลายตัวในเวลา 23.00 น.
สื่อนอกชี้ทักษิณคบเขมรทำเสียคะแนน
ขณะเดียวกันการชุมนุมครั้งนี้สำนักข่าวเอเอฟพี ได้รายงานบรรยากาศว่ามีการชุมนุมอย่างคึกคัก ขณะที่นายคริส เบเกอร์ นักวิเคราะห์ทางการเมือง ซึ่งเขียนอัตชีวประวัติ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า การที่อดีตนายกฯ ของไทยเข้าหาทางกัมพูชาจะทำให้สูญเสียเสียงสนับสนุนในไทย
"การแสดงตัวเข้าด้วยกับฮุน เซน ถือเป็นความผิดพลาดทางการเมืองอย่างร้ายแรง ซึ่งทำให้ความนิยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เสื่อมลงอย่างมาก เขาอยู่ในสภาพจนตรอก ที่พยายามจะเจรจาด้วยเงินของเขา และเขาก็สำคัญอำนาจตัวเองผิดไปอย่างยิ่งจริงๆ" นายคริสกล่าว
"ปทีป"สั่งตรึงกำลังคุมม็อบเหลือง
เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสร็ฐ รักษาการ ผบ.ตร. เป็นประธานรับฟังบรรยายสรุปการติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวงและการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยและมอบนโยบายการปฏิบัติโดยมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ปทีป กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า การปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ใช้กำลังตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อนทั้งรอบนอกและรอบในท้องสนามจำนวน 10 ร้อย 1500 นายมีกำลังตำรวจปราบจลาจลหญิงร่วมด้วย 1 กองร้อยเน้นการตรวจค้นอาวุธและสิ่งที่จะใช้แทนอาวะรวมถึงสิ่งผิดกฎหมายต่างๆห้ามมิให้พกพาเข้าไปอย่างเด็ดขาด รวมถึงการวางกำลังตำรวจในจุดสูงข่มป้องกันมือที่สามเข้าแทรกแซงหรือมีการลอบยิงจากระยะไกลและในที่สูง
รักษาการ ผบ.ตร. แสดงความเชื่อมั่นว่า การชุมนุมจะผ่านพ้นไปด้วยดีไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด และกำลังตำรวจที่มีอยู่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ไม่มีปัญหา แต่เพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษในส่วนของบุคคลต้องสงสัย และเน้นย้ำตำรวจผู้ปฏิบัติห้ามใช้กำลังหรืออาวุธใดๆกับผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานเรื่องมือที่สามเข้ามาก่อกวนหรือสร้างสถานการณ์แต่เพื่อความไม่ประมาทเราตรึงกำลังไว้แล้วทั้งหมด รวมถึงการตั้งด่านตรวจค้นในพื้นที่รอบนอกทั่ว กทม. ไม่น่าห่วง
นอกจากนี้ รักษาการ ผบ.ตร.ยังกล่าวถึง กรณี รอง สารวัตร สน. หัวหมาก เสียชีวิตขณะเข้าทำการจับกุมคนร้ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ว่า ต้องตรวจสอบสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างใรเมื่อตำรวจเข้าไปจับกุมแล้วอะไรที่ทำให้เกิดความผิดพลาดทำให้ตำรวจเสียชีวิตต้องมาศึกษากันอย่างถี่ถ้วน เพื่อจะได้หาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก และต้องมีการทบทวนการฝึกอบรมยุทธวิธีการเข้าจับกุมให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา บช.น.ก็มีการฝึกอบรมในระดับหนึ่งแล้ว แต่กรณีนี้คนร้ายมีรูปร่างใหญ่และมีการร่างกายแข็งแรงมีการเล่นกร้ามด้วยอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้
รักษาการ ผบ.ตร. ยังกล่าวถึงการ ประชุม กตร. ว่า จะมีในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ มีการเลือกคณะกรรมกลั่นกรอง โดยมีเลขาธิการ กพ.เป็นประธาน