ส่องมติ ศบค. รองรับเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ เช็กกันเลย! พื้นที่ไหนทำอะไรได้บ้าง
ส่องมติ ศบค.ชุดใหญ่ กันอย่างละเอียด พื้นที่ไหนทำอะไรได้บ้าง เพื่อรองรับการเปิดประเทศรับนักเดินทางจากต่างประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 64 ที่จะถึงนี้
วันนี้ (29 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ผอ.ศบค.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ศบค. ครั้งที่ 17/2564 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข เสนอแผนการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร และการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 แบบบูรณาการ วัคซีนโควิด 19
และที่ประชุมยังเห็นชอบให้ปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเหลือ 7 จังหวัด โดยจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังคงมาตรการเดิม และคงการห้ามออกนอกเคหสถาน เวลา 23.00 – 03.00 น. โดยมีรายละเอียดและสาระสำคัญดังต่อไปนี้
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 7 จังหวัด (จากเดิม 23 จังหวัด)
ได้แก่ จันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา
รายละเอียดมาตรการในพื้นที่
- การห้ามออกนอกเคหสถาน : ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 23.00 - 03.00 น.
- Work from Home : อย่างน้อย 70% หน่วยงานของรัฐ / ผู้ประกอบการภาคเอกชนปรับเพิ่มได้ตามความเหมาะสม
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม : ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน กรณีเกินจำนวนให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณา
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา : ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบจากผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวง อว. ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยมีมาตรการกำกับอย่างเคร่งครัด
- สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ : ให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตามมาตรการฯ
- สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา : เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมจัดการแข่งขัน จำกัดผู้ชม ได้แก่ กีฬาในร่ม ไม่มีผู้ชม ; กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิน 25% กรณีแข่งขันให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน : จำกัดจำนวนผู้ชม ห้ามบริโภคฯ พื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ 50% พื้นที่เปิดโล่ง 75%
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม : จัดประชุมไม่เกิน 500 คน และให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่เพื่อไม่ให้แออัด
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอลล์ : เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. งดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก และสวนน้ำ
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด : เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. กรณีเปิดบริการเครื่องเล่น สวนสนุก ให้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร : บริโภคในร้านได้ จำกัดลูกค้า ร้านไม่มีเครื่องปรับอากาศ 75% ร้านมีเครื่องปรับอากาศ 50% กำหนดเกณฑ์ผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. (งดการจำหน่าย และงดดื่มสุราในร้าน)
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก : เปิดบริการได้ ยกเว้นการใช้ไอน้ำ เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น.
พื้นที่ควบคุมสูงสุด 38 จังหวัด (จากเดิม 30 จังหวัด)
ได้แก่ กาญจนบุรี ขอนแก่น ชลบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ฉะเชิงเทรา ตรัง ตราด นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สระแก้ว สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี
รายละเอียดมาตรการในพื้นที่
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน
- Work from Home : หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้น กทม. และปริมณฑล อย่างน้อย 70%
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม : ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน กรณีเกินจำนวนให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณา
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา : ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
- สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ : เปิดดำเนินการตามปกติ
- สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา : เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 23.00 น. จำกัดผู้ชม ได้แก่ กีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกิน 25% ; กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิน 50% กรณีแข่งขันให้แจ้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพื่อทราบ
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน : จำกัดจำนวนผู้ชม พื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ 75% พื้นที่เปิดโล่งตามขนาดพื้นที่
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม : จัดประชุม จัดมหกรรมด้านกีฬา จัดแสดงสินค้า (ไม่มีชิมอาหาร) ไม่เกิน 500 คน และให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่เพื่อไม่ให้แออัด
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอลล์ : เปิดได้ตามเวลาปกติ งดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม ไม่เปิด สวนสนุก และสวนน้ำ
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด : เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร : บริโภคในร้านได้ เปิดตามเวลาปกติ ไม่เกิน 23.00 น. (งดการจำหน่าย และงดดื่มสุราในร้าน)
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก : เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกิน 23.00 น.
พื้นที่ควบคุม 23 จังหวัด (จากเดิม 24 จังหวัด)
ได้แก่ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ บุรีรัมย์ พะเยา แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สิงห์บุรี สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ
รายละเอียดมาตรการในพื้นที่
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน
- Work from Home : หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้น กทม. และปริมณฑล อย่างน้อย 70%
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม : ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน กรณีเกินจำนวนให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณา
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา : ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด
- สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ : เปิดดำเนินการตามปกติ
- สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา : เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ จำกัดผู้ชม ได้แก่ กีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกิน 50% ; กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมไม่เกิน 75%
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน : เปิดดำเนินการตามปกติ จำนวนผู้ชมตามมาตรการที่กำหนด
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม : จัดประชุม จัดมหกรรมด้านกีฬา จัดแสดงสินค้า (ชิมอาหารได้) จัดงานอื่นๆ ได้ ไม่เกิน 1,000 คน และให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่เพื่อไม่ให้แออัด
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอลล์ : เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ เปิด สวนสนุก และสวนน้ำ เฉพาะพื้นที่เปิดโล่ง
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด : เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร : บริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ (งดการจำหน่าย และงดดื่มสุราในร้าน) ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ได้
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก : เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกิน 24.00 น.
พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด (จากเดิมไม่มี)
ได้แก่ นครพนม น่าน บึงกาฬ มุกดาหาร สกลนคร
รายละเอียดมาตรการในพื้นที่
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน
- Work from Home : หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้น กทม. และปริมณฑล อย่างน้อย 70%
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม : ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 1,000 คน กรณีเกินจำนวนให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.พิจารณา
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา : ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด
- สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ : เปิดดำเนินการตามปกติ
- สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา : เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ จำกัดผู้ชม ได้แก่ กีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกิน 75% ; กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมตามความจุของสนาม และมาตรการเว้นระยะห่าง
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน : เปิดดำเนินการตามปกติ จำนวนผู้ชมตามมาตรการที่กำหนด
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม : จัดงานได้ตามความเหมาะสม
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอลล์ : เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด : เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร : บริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. พิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ได้
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก : เปิดบริการได้ตามปกติ
พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 4 จังหวัด
ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา ภูเก็ต
รายละเอียดมาตรการในพื้นที่
- ไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน
- Work from Home : หน่วยงานของรัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนดำเนินการได้ตามความเหมาะสม ยกเว้น กทม. และปริมณฑล อย่างน้อย 70%
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม : จัดกิจกรรมการรวมกลุ่มตามความเหมาะสม
- สถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา : ให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ
- สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุ : เปิดดำเนินการตามปกติ
- สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬา : เปิดบริการ และจัดการแข่งขันได้ตามปกติตามมาตรการที่กำหนด
- โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือสถานที่ลักษณะเดียวกัน : เปิดดำเนินการตามปกติ จำนวนผู้ชมตามมาตรการที่กำหนด
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม : จัดงานได้ตามความเหมาะสม
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซิตี้มอลล์ : เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาด ตลาดนัด : เปิดบริการได้ตามปกติ
- ร้านอาหาร ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร : บริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. พิจารณากำหนดเวลาปิดตามสถานการณ์พื้นที่ได้
- ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก : เปิดบริการได้ตามปกติ
โดยมาตรการทั้งหมด จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 หรือ โฆษก ศบค. กล่าวช่วงหนึ่งในระหว่างแถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ถึงการคาดการณ์หลังจากเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. ว่า หลังจากวันที่ 1 พ.ย. 64 ไปอีก 1 สัปดาห์ จะมีทางแยกสามทาง ดังนี้
ทางแยกที่ 1 ที่ทุกคนอยากให้เป็น คือ ทุกคนการ์ดไม่ตก คุมเข้มมาตรการเต็มที่
ทางแยกที่ 2 การ์ดตกนิดหน่อย ลดหย่อนมาตรการ ไม่เข้มงวด
ทางแยกที่ 3 การ์ดตกมาก ไม่คำนึงถึงมาตรการในการควบคุมโรค ซึ่งทางแยกนี้ อาจจะทำให้มีผู้ติดเชื้อสูงสุดหลักหมื่นหรือหลายหมื่น
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แค่เปิดประเทศ 1 สัปดาห์ สามารถรู้กำหนดชีวิตได้ ขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันผ่านไปได้ เพื่อนำเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศ และคืนสู่ชีวิตวิถีใหม่
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ