พระมหาไพรวัลย์ ร่ำไห้พูดถึงโยมแม่ ประกาศเตรียมสึก ทวงความเป็นธรรมให้พระราชปัญญาสุธี

พระมหาไพรวัลย์ ร่ำไห้พูดถึงโยมแม่ ประกาศเตรียมสึก ทวงความเป็นธรรมให้พระราชปัญญาสุธี

พระมหาไพรวัลย์ ร่ำไห้พูดถึงโยมแม่ ประกาศเตรียมสึก ทวงความเป็นธรรมให้พระราชปัญญาสุธี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีประเด็นร้อน หลังจาก พระมหาสมปอง ได้ต่อสายถึง พระมหาไพรวัลย์ แล้วถามว่า ถ้า พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองรูปปัจจุบัน ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส พระมหาไพรวัลย์ จะไม่อยู่วัดสร้อยทองจริงหรือไม่ ซึ่งได้ข่าวมาว่าถึงขนาดจะลาสิกขา 

ซึ่งทาง พระมหาไพรวัลย์ ตอบกลับว่า ไม่อยู่ครับ และบอกว่า หากไม่อยู่เป็นพระ ก็อยู่เป็นฆราวาส ซึ่งก็อาจจะ แม้บวชมาตลอดก็ไม่จำเป็นต้องเป็นครูอาจารย์ ผมไม่อดตายอยู่แล้ว สูงสุดคืนสู่สามัญ นี่คือหลักการใช้ชีวิตของผมอยู่แล้ว ไม่คืนวันนี้ วันตายก็ต้องคืนอยู่ดี นี่คือธรรมะ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ต.ค.) พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระลูกวัดสร้อยทอง พส.ชื่อดัง ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กเพจ ด้วยหัวข้อ "ความในใจจาก พส. พว." โดยเนื้อหาที่พูดในไลฟ์ กล่าวถึง พระราชปัญญาสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส 

พระมหาไพรวัลย์บอกว่า ในเรื่องการลาสิกขาของอาตมานั้น ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ไม่ใช่เรื่องของการหมดกำลังใจ แต่เป็นความกล้าหาญในการแสดงออก และหากลาสิกขาจริงๆ ก็จะขอทำหน้าที่ของการเป็นพระให้ดีที่สุดถึงวันสุดท้าย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน

โดยพระมหาไพรวัลย์ ระบุว่า อาตมาอยู่วัดสร้อยทองมา 12 ปี ช่วยเหลืองานวัดมาเสมอ มี พระราชปัญญาสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ที่เปรียบเสมือนพ่อและครูอาจารย์ของอาตมา การที่ท่านไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส หากสาเหตุเป็นเพราะสาเหตุที่อาตมาที่นำปัญหามาให้ อาตมาก็ขอสละสมณเพศ 

พระมหาไพรวัลย์ยังเล่าอีกว่า พระราชปัญญาสุธี กล่าวไว้เมื่อวันออกพรรษาในพระอุโบสถถึงกระแสข่าวว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ท่านบอกว่า ใครจะเป็นเจ้าอาวาสก็ได้ ไม่สำคัญ สำคัญแค่เราต้องช่วยกันดูแลรักษาวัดเอาไว้ ใครจะได้เป็นเจ้าอาวาสไม่สำคัญเลย ไม่ต้องไปให้สัมภาษณ์ ผู้ใหญ่ท่านว่าอย่างไรให้ว่าตามนั้น หากผู้ใหญ่ท่านมองว่าเราไม่เหมาะจะปกครอง รูปอื่นเหมาะสมกว่าก็ว่าไปตามนั้น ไม่ต้องไปติติง

ช่วงหนึ่งขณะไลฟ์อยู่นั้น พระมหาไพรวัลย์ ได้ร่ำไห้ออกมา ระบุว่า หากลาสิกขาแล้ว ก็จะขอกลับไปดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง ยืนยันว่าจะไม่ย้ายไปอยู่วัดอื่น โดยช่วงหนึ่งของการไลฟ์ พระมหาไพรวัลย์ยังได้พูดถึงโยมแม่ พร้อมกับร้องไห้ออกมา โดยเล่าว่าในวันก่อนที่อาตมาจะบวชเฌร โยมแม่ขอกอดเป็นครั้งสุดท้าย เพราะลูกชายจะเข้าสู่สมณเพศโดยถาวร แต่ตอนนี้โยมแม่คงพูดผิดไป แม่ไม่แม่นแล้ว เพราะอีกไม่นานก็จะได้กลับไปกอดแล้ว (หลังจากลาสิกขา)

พระมหาไพรวัลย์ยังบอกอีกว่า ที่ร้องไห้ ดราม่านี้ ไม่ได้เป็นเรื่องผิดอะไร หากรู้สึกอะไรก็ร้องไห้ออกมา บางทีอาจจะได้ทำให้เราเห็นอะไรชัดขึ้น อาจจะเป็นน้ำตาแห่งความดีใจก็ได้ที่จะได้กลับไปหาโยมแม่ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook