แข้งไทยเจ๋งบุกซดลอดช่อง3-1
แข้งไทยโชว์ฟอร์มเจ๋ง บุกไปพิชิต ลอดช่อง สิงคโปร์ คาบ้าน 3-1 ขึ้นรั้งอันดับ 2 ในศึกลูกหนังเอเชี่ยนคัพ 2011 รอบคัดเลือก
"เจ้าเบิร์ท" สุธี สุขสมกิจ ซัดคนเดียว 2 ลูก และ "น้าเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น บวกอีก 1 เม็ด ก่อนจะมาเสียจุดโทษท้ายเกม นัดต่อไป ไทยจะเปิดราชมังคลากีฬาสถาน เจอ สิงคโปร์อีกครั้ง 18 พ.ย.นี้
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียหรือ "เอเชี่ยนคัพ 2011" รอบคัดเลือก กลุ่มอี นัดที่ 3 เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา "ลอดช่อง" สิงคโปร์ ทีมอันดับ 2 ของกลุ่มที่มี 3 แต้มจากการ ชนะ จอร์แดน 2-1 และแพ้ อิหร่าน 0-6 พบ ทีมชาติไทย ที่มี 2 แต้มจากการเสมอ จอร์แดน 0-0 และ เสมอ อิหร่าน 0-0 นัดนี้มีแฟนบอลเจ้าถิ่นและไทยเข้ามาเชียร์ในสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ราว 2 หมื่นคน
ทีมชาติไทยส่งผู้เล่น 11 คนแรกลงสนาม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, คู่เซ็นเตอร์แบ็ค ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ กับ ภานุพงษ์ วงศา, แบ็คขวา สุรีย์ สุขะ, แบ็คซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ, กองกลาง สุรัตน์ สุขะ, ดัสกร ทองเหลา, สุธี สุขสมกิจ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา กับ พิพัฒน์ ต้นกันยา ขณะที่สิงคโปร์มี นอร์ อลัม ชาห์ ดาวยิงตัวเก่งพร้อมทั้งนักเตะโอนสัญชาติทั้ง อเลซ์ซานเดอร์ ดูริค, จอห์น วิลกินสัน และ เดเนียล เบนเนตต์
เริ่มเกมแค่ 2 นาที ณัฐพงษ์ โดนใบเหลืองเป็นคนแรก หลังไปดึง ไรดัม โมฮัมเหม็ด ทีมไทยบุกได้ดีกว่า นาที 10 เกือบได้ประตู จากจังหวะที่ สุเชาว์ เปิดบอลโด่งทางขวา พิพัฒน์ กดด้วยซ้ายบอลพุ่งจะเสียบเสา แต่ ฮัสซัน ซันนี นายทวารเจ้าบ้านพุ่งปัดออกไปหวุดหวิด ทีมไทยยังกดดันต่อเนื่อง และมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ ในนาที 12 เมื่อ ดัสกร ได้ยิงในเขตโทษ บอลไปโดนมือ นอร์ อลัม ชาห์ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และให้ใบเหลือง นอร์ อลัม ชาห์ ด้วย "เจ้าเบิร์ท" สุธี รับหน้าที่สังหาร วิ่งเข้าแปบอลไปทางซ้ายของตัวเอง นายทวารเจ้าบ้านพุ่งไปคนละทาง ทีมไทยขึ้นนำ 1-0
สิงคโปร์เริ่มใช้เกมหนักเข้าใส่ทีมไทย และเปิดเกมรุกมากขึ้น ทีมไทยยังสวนกลับได้ดี นาที 32 พิพัฒน์ ลองยิงไกลจากนอกเขตโทษ บอลข้ามคานแบบไม่มีลุ้น นาทีเดียวกัน สุเชาว์ ยิงไกลนอกเขตโทษ บอลพุ่งไปเข้าทางพิพัฒน์ อีกครั้ง แต่เข้าฮอสไม่ดี บอลผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย นาที 35 สิงคโปร์ได้ยิงไกล จาก ไรดัม โมฮัมเหม็ด บอลไม่ตรงกรอบ นาทีสุดท้ายครึ่งแรก ไทยเกือบได้ประตูที่ 2 ดัสกร ได้ตะบันจากระยะ 20 หลา แต่ นายทวารฮัสซัน ทุบบอลออกมาได้ ช่วงทดเจ็บ บฮาเลค ไคซาน กองหลังลอดช่อง โดนใบเหลืองอีกคน ก่อนที่ สุธี จะเปิดลุกฟรีคิกให้ สุเชาว์ โหม่งข้ามคาน จบครึ่งแรก ไทยนำ 1-0
ครึ่งหลัง เล่นได้ 2 นาที ไทยก็เกือบได้ประตูอีกครั้ง เมื่อ ณัฐพงษ์ โยนบอลจากกราบซ้ายให้ ธีรศิลป์ โหม่งกดบอลลงพื้นกระดอนข้ามคานออกไป นาทีถัดมา ดัสกร ได้ยิงอีกครั้ง แต่ ฮัสซัน ซันนี ก็ยังปัดบอลข้ามคานออกไปได้อีก นาที 54 ไทยส่ง ปีเตอร์ แลง ลงมาแทน สุรัตน์ สุขขะ นาที 56 ดัสกร ได้จังหวะตัดบอลในแดนกลางอีกครั้ง ก่อนจะยิงไกล แต่บอลไม่ตรงกรอบ อีก 3 นาที จอห์น วิลกินสัน สับไกยิงบอลไปโดน แขน ณัฐพร ผู้เล่นสิงคโปร์ร้องเป็นจังหวะแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร
ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ไบรอัน ร็อบสัน ส่ง เทิดศักดิ์ ใจมั่น ลงแทน พิพัฒน์ โดยหวังใช้ประสบการณ์มาคุมเกมในแดนกลาง แต่นาที 63 ไทยเกือบเสียประตู เมื่อ อเลกซ์ซานเดอร์ ดูริค ได้บอลหลุดเข้าไปหลบ สินทวีชัย จนถึงเส้นหลัง ก่อนจะผ่านมาหน้าประตู แต่ไม่มีนักเตะลอดช่องเข้าชาร์จ กองหลังไทยเคลียร์ออกไปได้หวุดหวิด นาที 66 เทิดศักดิ์ ได้ลองยิงฟรีคิก 28 หลา บอลข้ามคานแบบไม่มีลุ้น
15 นาทีสุดท้าย สิงคโปร์ พยายามบุกเพื่อยิงประตูตีเสมอ มุสตาฟิก ฟาห์รุดดิน ได้จังหวะโหม่งในเขตโทษ บอลหลุดเสาออกไป กระทั่งนาที 76 ไทยมาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะสวนกลับ สุเชาว์ ได้บอลขึ้นทางซ้าย ก่อนจะตักบอลนิ่ม ๆ ให้ เทิดศักดิ์ ที่วิ่งสอดขึ้นมาในเขตโทษ กดเต็ม ๆ ด้วยเท้าขวาแบบไม่ต้องจับ บอลตุงตาข่ายสุดสวยให้ทีมไทย ทะยานนำห่างไปเป็น 2-0 ท้ายเกม นิรุจน์ สุระเสียง ลงมาแทน ดัสกร และนาที 81 ไทยมาได้ประตูหนีห่างอีกครั้ง เมื่อธีรศิลป์ แทงบอล ทะลุช่องให้ สุธี หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงด้วยเท้าขวาสบาย ๆ ให้ไทยนำ 3-0 แต่นาที 84 สิงคโปร์มาได้จุดโทษ มุสตาฟิก ฟาห์รุดดิน สังหารให้เจ้าบ้านไล่มา 1-3 จบเกมไทย บุกชนะ 3-1 เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ ผ่านเกมเตะ 3 นัดในกลุ่ม อี ไทยมี 5 แต้ม แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 รองจากอิหร่าน โดย สิงคโปร์ มี 3 แต้มเท่าเดิม นัดต่อไป ไทยจะเปิดราชมังคลากีฬาสถาน พบ สิงคโปร์ วันที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 18.30 น.
ไทยลีกปีหน้ามีเงิน 100 ล้าน
"ดร.ลูกหนัง" วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 200 กว่าล้านบาทให้กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ในการดำเนินการจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก, ลีกดิวิชั่น 1, ลีกภูมิภาค, ลีกฟุตบอลหญิง รวมทั้งฟุตซอลชาย-หญิง ซึ่งทางสมาคมจะต้องไปหารือกับทาง กกท.อีกครั้งหนึ่งเพื่อจัดสรรงบประมาณดังกล่าวว่าลีกไหนจะได้เท่าไหร่
"สำหรับฟุตบอลลีกสูงสุดนั้นเท่าที่หารือกันเบื้องต้นกับทางสมาคมฟุตบอลฯ คาดว่าจะได้ประมาณ 70 ล้านบาท แต่ล่าสุดอาจได้สปอนเซอร์เข้ามาให้การสนับสนุนประมาณอีก 30 ล้านบาท ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากัน หากเป็นไปตามนี้ ก็จะมีงบประมาณจัดสูงถึง 100 ล้านบาททีเดียว เชื่อว่าจะทำให้เกมยิ่งใหญ่และได้มาตรฐานมากขึ้นอย่างแน่นอน"
ดร.ลูกหนัง เผยอีกว่า ในส่วนของการเพิ่มทีมจาก 16 ทีมเป็น 18 หรือ 20 ทีมนั้น ในที่สัมมนากันก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยแน่นอน เพราะลีกบ้านเรายังไม่แข็งแกร่งพอ เช่นเดียวกับเรื่องการเพิ่มโควตานักเตะจากต่างประเทศจากเดิมให้ลงสนามได้ 3 คนจะเพิ่มให้ลงสนามได้ 5 คน ซึ่งเรื่องนี้มองว่าเป็นการเอาเปรียบทีมเล็กๆ ที่มีเงินสนับสนุนไม่มากพอ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสมาคมฟุตบอลไทย อีกครั้ง