พี่สาว 12 ขวบ ตามคนมาช่วยน้อง 7 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน แม่ช็อก คิดว่าเขารักเหมือนลูกแท้ๆ
พี่สาว 12 ขวบ ตามน้าชายมาช่วยน้อง 7 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนซ้ำๆ แม่เด็กช็อก คิดว่าเขารักลูกตัวเองเหมือนลูกแท้ๆ
วันนี้ (30 ต.ค. 64) ที่ สน.ดอนเมือง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา แม่และป้า ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 7 ขวบ เข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับ นายกร (นามสมมติ) หลังก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.เอ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยง
เรื่องราวอันสลดนี้ แม่กับป้าของเด็กไม่สามารถทนได้ จึงร้องเรียนมาที่ มูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยแม่กับป้าของเด็ก เล่าว่า ด.ญ.เอ วัย 7 ขวบ ถูกนายกร ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงข่มขืน โดยมีพี่สาว อายุ 12 ปี เห็นเหตุกาณ์และวิ่งไปตามน้าชายมาช่วย ด.ญ.เอ ต่อมาภายหลัง พวกตนเพิ่งมาทราบว่า เด็กถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนมาแล้วหลายครั้ง
ส่วนวันที่ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี พี่สาวของ ด.ญ.เอ มาเห็นเหตุการณ์คือ คืนวันที่ 27 ต.ค. 64 เวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่ ด.ญ.เอ กับ ด.ญ.บี สองพี่น้องอยู่กับพ่อเลี้ยงเพราะแม่ยังไม่เลิกงาน ตอนนั้นพ่อเลี้ยงได้ให้ ด.ญ.บี ออกไปซื้อของนอกบ้าน ส่วน ด.ญ.เอ อยู่ในห้องกับพ่อเลี้ยง
แต่ ด.ญ.บี คิดอยู่ในใจแล้วว่าน้องจะต้องถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดแน่นอน เพราะพ่อเลี้ยงเคยกระทำน้องมาก่อนหน้านี้ ซ้ำยังข่มขู่น้องห้ามบอกแม่ใคร ด.ญ.บี จึงรีบวิ่งไปบอกน้าชายที่อาศัยอยู่ไม่ไกลกันมาช่วย
แม่กับป้าของเด็ก บอกด้วยว่า พอนายกรถูกจับได้คาหนังคาเขา ก็ยกมือไหว้พร้อมขอโทษ แต่น้าชายของเด็กโมโห จึงบันดาลโทสะต่อยหน้านายกรจนเกิดความชุลมุน พอสบโอกาสช่วงชุลมุน นายกรจึงหลบหนีไป
เมื่อสอบถามแม่เด็กว่า อยู่กินกับ นายกร มานานแค่ไหน แม่เด็กก็เล่าให้ฟังว่า นายกร มีอาชีพเป็น รปภ. อยู่กินด้วยกันมาประมาณ 2 ปีกว่า แต่ตนเองมีโรคประจำตัวร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ช่วงหลังนายกร จึงได้ลงมานอนพื้นกับ ด.ญ.เอ และ ด.ญ.บี ส่วนตนนอนบนเตียง ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะที่ผ่านมานายกรช่วยดูแลลูกๆ ทั้งสอง ตนคิดว่าเขารักลูกของตนเหมือนลูกแท้ๆ แต่เหตุกาณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ตนไม่คิดว่านายกรจะทำลูกตนได้ลงคอ
ด้าน นางปวีณา ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.รังสรรค์ สองสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง ให้แม่กับป้า พาลูกสาวทั้งสองคนเข้าพบ และส่งตัวเด็กตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ ก่อนนัดทีม สหวิชาชีพ สอบปากคำ ด.ญ.เอ กับ ด.ญ.บี และสอบปากคำน้าชายที่เป็นพยานบุคคล และรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับ นายกร มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วน ด.ญ.เอ จะต้องได้รับการฟื้นฟูสภาพจิต ซึ่งตนจะติดตามคดีรวมถึงจะประสานกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้การเยียวยาต่อไป