นักพัฒนาชุมชน โกงเงินคนแก่กว่า 20 ล้าน ก่อนชิ่งหายตัว อดีตผัวรับกรรมโดนตามทวงทุกวัน

วันที่ 2 พ.ย.64 ชาวบ้านกระสัง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 10 คน ส่วนใหญ่เป็นคนชรา เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.หญิงพิชญานิน ปลั่งกลาง รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมือง บุรีรัมย์ ให้เอาผิดกับ นางเกศา หรือ อี้  อายุ 42 ปี นักพัฒนาชุมชน ชำนาญการ อบต.กระสัง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้ลาออกจากงานไปเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้วหายตัวไปไร้ร่องรอย

หลังก่อเหตุหลอกให้ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชรา กู้เงินมาให้ยืม และทำโฉนดปลอมเป็นชื่อของตัวเอง เอาไปวางค้ำประกันยืมเงินชาวบ้าน มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ที่ใช้โฉนดปลอมมาวางค้ำประกันขอยืมเงินคนชรา และหลอกให้คนชราเอาที่ดินไปกู้เงินมาให้ มีผู้เสียหายรายละตั้งแต่ 100,000-3,000,000 บาท มูลค่าความเสียหายทั้งหมดไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท

ล่าสุดผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่บ้านสามีของนางอี้ พบว่า มีการนำป้ายห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ทวงหนี้รายวัน เข้ามาหาเป็นประจำ 

สอบถาม นายบันลือ อายุ 45 ปี อดีตสามีนางอี้ และอดีตรองนายก อบต.กระสัง บอกว่า ตนไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะได้หย่าร้างกันแล้ว สาเหตุเพราะมีชาวบ้านและเจ้าหนี้มาทวงเงินเป็นจำนวนมาก จึงแยกทางกันเพื่อไม่ให้ตนต้องเดือดร้อนไปด้วย ยอมรับไม่รู้ว่าอดีตภรรยา เอาเงินไปใช้อะไร

ด้านนางบุญรุ่ง อายุ 74 ปี แม่ของนางอี้ บอกว่า ตั้งแต่ลูกสาวทำงานและแต่งงานไปอยู่ที่บ้านของสามี เมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ตนไม่รู้ว่าลูกสาวทำอะไรบ้าง รู้เพียงว่าทำงานที่ อบต.แต่ตำแหน่งไม่รู้ และยังไม่รู้อีกว่าได้ลาออกจากงานแล้ว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ อบต.มาตามหาที่บ้านแม่ จึงเริ่มรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้แล้ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโฉนดที่ชาวบ้านอ้างว่าเป็นโฉนดปลอมนั้น ตำรวจได้ส่งไปพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นครราชสีมา แล้ว แต่ยังไม่ได้ผลการตรวจสอบ และคาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายมาแจ้งความอีกหลังจากนี้