ตำรวจรับ "ยาอี-ยาเค ผสมกาแฟ" เป็นเรื่องใหม่ ยังไม่ชัวร์ระบาดในไทยหรือยัง

ตำรวจรับ "ยาอี-ยาเค ผสมกาแฟ" เป็นเรื่องใหม่ ยังไม่ชัวร์ระบาดในไทยหรือยัง

ตำรวจรับ "ยาอี-ยาเค ผสมกาแฟ" เป็นเรื่องใหม่ ยังไม่ชัวร์ระบาดในไทยหรือยัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะแอปฯ TikTok และเพจ Drama-addict รวมทั้งเพจ หมอแล็บแพนด้า ออกมาเผยแพร่ข้อมูลว่า ขณะนี้มียาเสพติดประเภทใหม่ระบาดอยู่ในโลกโซเชียลและกลุ่มนักเสพยาเสพติด โดยเป็นยาอีที่แปรรูปมาในแบบของกาแฟ หรือที่ในวงการเรียกกันว่าเคกาแฟ หรือ ฟิวกาแฟ ซึ่งจะมีลักษณะบรรจุหีบห่ออยู่ภายในซองคล้ายกับกาแฟสำเร็จรูป สามารถใช้ชงน้ำร้อนหรือน้ำเย็นดื่มเป็นยาเสพติดได้ทันทีโดยจะมีฤทธิ์คล้ายกับเคตามีนทั่วไป

ทีมข่าวได้สอบถามไปที่ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ก็ได้รับข้อมูลว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวจากในโลกโซเชียลแล้ว  โดยทาง พล.ต.ท.ศรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้สั่งการให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 ซึ่งดูแลในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปสืบหาข้อมูลดังกล่าวว่า เคกาแฟ มีการจำหน่ายอยู่ในประเทศไทยจริงหรือไม่ หรือเป็นรูปแบบการเสพติดที่แพร่ระบาดอยู่ในต่างประเทศ และหาทางติดตามจับกุมดำเนินคดีกับยาเสพติดรูปแบบนี้ และสกัดกั้นไม่ให้เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย 

ทั้งนี้เคกาแฟ ถือว่าเป็นรูปแบบของเคตามีนรูปแบบใหม่ ที่ไม่เคยผ่านเข้ามาในสารบบการข่าวของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาก่อน โดยในอดีตรูปแบบของเคตามีนที่นำเข้ามาในประเทศไทย จะมีการลักลอบนำไปใส่ในซองหรือถุงบรรจุภัณฑ์ครีมเทียม ที่ใช้ชงกาแฟ แต่ภายในก็จะเป็นเคตามีนชนิดเม็ด หรือชนิดผงมาแทน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่เคยพบเคกาแฟในรูปแบบนี้มาก่อน

ทั้งนี้การข่าวในเบื้องต้นพบว่าเคกาแฟ ดังกล่าวเป็นเคตามีนที่ผสมกับผงกาแฟสำเร็จรูป โดยมีวัตถุประสงค์ 2 แบบ คือใช้เป็นการตกปลาเจ้าหน้าที่ และอีกส่วนหนึ่งใช้เป็นรูปแบบหนึ่งของการเสพโดยพบว่ามีความนิยมในหมู่นักดื่มกาแฟ แต่ยังไม่สามารถระบุชี้ชัดได้ว่าเป็นการเสพของคนในประเทศ หรือมีจำหน่ายในประเทศไทยหรือยัง

ด้านเพจ Drama-addict ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้ ระบุว่า

ฟิวกาแฟ หรือยาเสพติดที่เอาไปผสมแล้วใส่ในซองกาแฟ 3in1 ขายวัยรุ่นนี่ จากข้อมูลตอนนี้หลักๆคือ ยาอี (หรือสารเสพติดกลุ่มเดียวกัน) ผสมกับพวก Erimin หรือ Nimetazepam คือเป็นการผสมทั้งสารเสพติด และยาที่มีฤทธิ์ในการ กระตุ้นประสาท หลอนประสาท และ กดประสาท รวมเข้าด้วยกัน

ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าที่ผ่านมา มีคนตายจากตัวนี้หรือยัง (เพราะมันเพิ่งเป็นข่าวนี่นะ) แต่ดูจากฤทธิ์ทางยาของมัน คนที่ไปเอามาเสพนี่ น่าจะมีอาการ กระตุ้นประสาท รู้สึกคึก กระสับกระส่ายร่วมกับอาการหลอนประสาท หูแว่ว ใจเต้นเร็ว ซึ่งหากใช้ในปริมาณสูงจะเกิดภาวะหวาดระแวง ประสาทหลอนอย่างรุนแรง จนอาจมีอาการแบบคนที่เสพยาบ้าจนหลอนได้ หรืออาจมีใจเต้นเร็วจนหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันสูงลิ่ว ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และเสียชีวิตได้

ส่วนพวกที่เสพปริมาณไม่สูงพวกนี้หลังยาหมดฤทธิ์ จะรู้สึกหดหู่ ซึมเศร้า เพราะตัวยาเสพติดตัวนี้มันจะไปทำลายปลายประสาทที่หลั่งสารสื่อประสาทที่ทำให้มีความสุข พอสารสื่อประสาทออกมาจากปลายประสาทที่มันทำลาย ตอนเสพเลยรู้สึกคึก เคลิบเคลิ้ม แต่พอหมดฤทธิ์ยา แล้วปลายประสาทเสียหาย สารสื่อประสาทที่ว่าก็หมดไป หลังจากนั้นชีวิตก็จะไม่มีความสุขอะไรอีก และอาจป่วยเป็นโรคจิตเวชหลังจากนั้นได้ และสามารถทำให้เกิดโรคจิตเวชได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะจิตเภท ซึมเศร้า ไบโพลาร์ บลาๆ อยู่ที่ว่าจะสุ่มกาชาว่าสมองส่วนไหนจะเสียหายจากการเสพยาตัวนี้

นี่ยังไม่รวมถึงประเด็นที่ว่า มันอาจผสมกับสารเสพติดหรือยาตัวอื่น เพื่อเสริมฤทธิ์ให้รุนแรงยิ่งขึ้นถ้าไม่กวาดล้างพวกนี้โดยไว ยอดคนเสียชีวิตหลังเสพยา ไม่น่าด้อยกว่าเคนมผงแถมตัวนี้น่าจะก่อผลเสียในระยะยาวสูงกว่าเคนมผงมากด้วย

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ ของ ตำรวจรับ "ยาอี-ยาเค ผสมกาแฟ" เป็นเรื่องใหม่ ยังไม่ชัวร์ระบาดในไทยหรือยัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook