สนง.สลากเชื่อล็อตเตอรี่ถูกลงแน่หลังพิมพ์เพิ่ม
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯเชื่อราคาล็อตเตอรี่ถูกลงแน่ หลังพิมพ์เพิ่ม พร้อมเดินหน้าจัดสรรโควตา ลั่นเดินหน้าหวยออนไลน์ต่อ
นายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้ราคาสลากฯ เริ่มปรับลดลงบ้างแล้ว หลังจากที่สำนักงานสลากฯ พิมพ์สลากการกุศลเพิ่ม 4 ล้านฉบับ และเร็ว ๆ นี้จะมีสลากฯ ออกมาอีก 6 ล้านฉบับ ในงวดวันที่ 16 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป คาดว่าจะทำให้ราคาขายปลีกลงมาอยู่ที่ระดับ 80-90 บาทแน่นอน
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีข่าวว่า มูลนิธิสำนักงานสลากฯ เรียกบรรดายี่ปั๊วให้มาซื้อสลากการกุศลที่ออกไปลอตแรก 4 ล้านฉบับ จากสำนักงานฯ ในราคาฉบับละ 85 บาท และมีบางส่วนตัดโควตาให้นักการเมืองนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยสำนักงานสลากฯ ได้จัดสรรโควตาให้แก่ผู้ขายตามมติที่คณะกรรมการสลากฯ อนุมัติมา และสามารถชี้แจงได้ทุกกรณี
ส่วนในอนาคตราคาสลากฯ จะปรับตัวลดลงอย่างแน่นอน เพราะเริ่มมีสินค้าเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก เหมือนกรณีในปี 2548 ที่มีสลากฯ เข้าสู่ระบบจำนวนมาก ทำให้ราคาปรับลดลง จนกระทั่งต่ำสุดเหลือที่ 3 ใบ 100 บาทเท่านั้น และเกิดกรณีผู้ที่ได้รับโควตาไปก็ทิ้งโควตา ส่งผลให้สำนักงานสลากฯ ต้องยึดโควตาคืนมา ดังนั้น จึงยืนยันว่า ขณะนี้สำนักงานสลากฯ มีสลากมากเพียงพอที่จะจัดสรรโควตาให้ โดยเฉพาะให้แก่กลุ่มผู้พิการ เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ให้เป็นภาระแก่คนอื่น และมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้
ส่วนกรณีการขายสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ผ่านเครื่องอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) สำนักงานสลากฯ ยืนยันว่า ยังคงเดินหน้าต่อ และจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ในกรณีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากหวยออนไลน์ต่อไป รวมถึงเรื่องการจัดสรรโควตาสลากฯ ให้แก่ผู้ค้าด้วย
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า การเพิ่มสลากฯ อีก 4 ล้านฉบับนั้น แม้จะทำให้ราคาสลากฯ ลดลงไม่มากนัก แต่เมื่อทำควบคู่กับมาตรการปราบปราม และการทยอยเพิ่มสลากฯ ให้ครบงวดละ 56 ล้านฉบับ คงจะทำให้ราคาปรับลดลงมาได้
รายงานข่าวจากสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า ตามแผนสำนักงานสลากฯ จะพิมพ์สลากการกุศลเพิ่มอีก 6 ล้านฉบับ โดยจะเริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสภากาชาด 4 ล้านฉบับ โรงพยาบาลจุฬาฯ 2 ล้านฉบับ ซึ่งจะทำให้ยอดการพิมพ์สลากฯ ต่องวดเพิ่มขึ้นเป็น 56 ล้านฉบับ
