สาวเจ็บท้องคลอดสุดงง รพ. บังคับฉีดวัคซีนโควิดก่อนทำคลอด สุดท้ายเด็กตาย อ้างรกพันคอ

สาวเจ็บท้องคลอดสุดงง รพ. บังคับฉีดวัคซีนโควิดก่อนทำคลอด สุดท้ายเด็กตาย อ้างรกพันคอ

สาวเจ็บท้องคลอดสุดงง รพ. บังคับฉีดวัคซีนโควิดก่อนทำคลอด สุดท้ายเด็กตาย อ้างรกพันคอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 ได้โพสต์ภาพการสนทนาของคุณแม่ที่ทาง รพ.ทำคลอดออกมาแล้วเสียชีวิต พร้อมกับข้อความที่ “ฉีด SV ให้คนท้องใกล้คลอดได้ไหม เกี่ยวกันไหม คลอดลูกแล้วเด็กเสียชีวิต หมอแจ้งว่ารกพันคอ แต่ญาติยังมีข้อสงสัย ทาง รพ.ชี้แจงให้ญาติสิ้นสงสัยด้วยคะ”

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง รพ.ชานุมาน อ.ชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยวันนี้ทาง รพ.ชานุมาน ได้มีการนัด น.ส.พัชราพร พุทธรักษา ผู้เสียหายพร้อมครอบครัวเข้ามาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ รพ.ชานุมาน ไม่อนุญาตให้ทางทีมข่าวเข้าร่วมรับฟังการพูดคุยในครั้งนี้ และไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ ภายในบริเวณภายในโรงพยาบาลแต่อย่างใด

หลังที่ทางเจ้าหน้าที่ รพ.ชานุมาน ได้พูดคุยกับทาง น.ส.พัชราพร ผู้เสียหายเสร็จ ทางทีมข่าวจึงได้สอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยผู้เสียหายได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนอุ้มท้องลูกของตนมาตั้ง 9 เดือน เฝ้ารอวันที่จะได้เจอหน้าลูกในวันที่เขาลืมตาดูโลก แต่วันที่เกิดเหตุนั้นตนเจ็บท้องคลอด จึงได้เดินทางมาที่ รพ.ชานุมาน เพื่อที่จะทำคลอด แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าตนต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 เสียก่อนไม่งั้นทาง เจ้าหน้าที่ รพ.จะไม่ทำคลอดให้ ตนเองก็สงสัยว่าทำให้ต้องฉีดวัคซีน แต่ถ้าไม่ได้ฉีดก็ไม่ได้ทำคลอด ตนจึงได้ตัดสินใจฉีดเพื่อที่จะได้เข้าทำคลอด

แต่พอทำคลอดเสร็จ เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าลูกของตนเสียชีวิตจากการที่รกพันคอเด็ก ซึ่งมันใช่เหรอ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนมาฝากครรภ์ที่ รพ.ประจำ ตรวจทุกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าลูกของตนแข็งแรงดี แต่ทำให้ถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตนเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการฉีดวัคซีนจึงทำให้ลูกของตนได้รับผลกระทบจากวัคซีนด้วย ตนเองก็รู้สึกเสียใจ และอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างนี้ พร้อมกับเยียวยาให้กับครอบครัวของตนที่ต้องเสียลูกไป

ทางด้าน นายจันที สิงสีพา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยกับทีมข่าวว่า วันนี้ตนได้พาผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกบ้านของตน เข้าไปพูดคุยถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นกับทางเจ้าหน้าที่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า จะมีการตรวจอบสาเหตุการตายของเด็กอย่างละเอียดครั้ง พร้อมกับจะมีการส่งเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนเข้าไปที่ตัวจังหวัด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งตนเองก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อตรวจสอบอย่างละเอียด ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายไม่อยากให้เรื่องเงียบหายไป และมีการเยียวยาให้กับผู้เสียหายที่ต้องสูญเสียลูกไป

ซึ่งหลังจากที่เด็กในท้องเสียชีวิต ครอบครัวผู้เสียหายก็ไม่ได้มีการจัดงานบำเพ็ญกุศลแต่อย่างใด เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ประกอบกับช่วงโควิดระบาด จึงได้ทำได้เพียงแค่นำศพของเด็กไปฝังที่ป่าช้าเท่านั่น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook