แม่ค้าสาวฝันสลาย กู้เงินธนาคารสร้างบ้านเป็นหนี้กว่า 2 ล้าน สุดท้ายได้บ้านร้าง
แม่ค้าสาวฝันสลาย กู้เงินธนาคารสร้างบ้านเป็นหนี้เกือบ 2 ล้าน สุดท้ายได้บ้านร้าง เชื่อถูกนายหน้ากับผู้จัดการแบงก์โกง
(6 พ.ย.64) มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งส่งคลิปภาพบ้านหลังหนึ่งที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จและถูกปล่อยทิ้งร้างในสภาพทรุดโทรม ร้องเรียนไปที่เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 เล่าเรื่องราวว่ากำลังเดือดร้อนหนัก บอกว่าได้กู้เงินธนาคารเพื่อสร้างบ้านหลังนี้เกือบสองล้าน แต่สุดท้ายกลับได้บ้านตามสภาพที่เห็น ที่ผ่านมาพยายามติดต่อสอบถามไปกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกลับไม่มีคำตอบ จนทุกวันนี้ต้องรับภาระเป็นหนี้ก้อนโตแลกกับบ้านร้าง
ทีมข่าวประสานงานกับแอดมินเพจ และได้ติดต่อกับ นางสาวปิยะนุช อายุ 34 ปี เจ้าของเรื่องร้องเรียน โดยนางสาวปิยะนุชได้พาทีมข่าวเข้าไปดูที่บ้านหลังนี้ ตั้งอยู่ในซอย 14 หมู่บ้านน้ำบ่อเย็น หมู่ 11 ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ พบเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เนื้อที่ 57 ตารางวา ตัวบ้านมีการก่อสร้างแล้วเสร็จในส่วนโครงสร้าง ก่ออิฐฉาบปูน หลังคา ฝ้าเพดาน และ ปูพื้นกระเบื้อง ส่วนที่เหลือทั้งกำแพงรั้ว ประตู หน้าต่าง ระบบไฟฟ้า ประปา รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ ถูกทิ้งงานจนบ้านอยู่ในสภาพรกร้างสกปรก มีเศษวัสดุกองเต็มพื้นที่ แถมหลังบ้านยังถูกขุดดินและมีน้ำท่วมขังจนกลายเป็นบ่อปลา
นางสาวปิยะนุช เล่าว่า ปัจจุบันมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายหมู อยู่ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ก่อนหน้านี้ในปี 2562 เธออยากจะมีบ้านเพื่อสร้างครอบครัว แต่ในขณะนั้นเธอไม่มีงานทำและเช่าบ้านอยู่ที่ อ.แม่วาง ต่อมาได้รู้จักกับยายคนหนึ่งอายุประมาณ 70 ปี บอกว่าเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เสนอขายบ้านพร้อมที่ดินในพื้นที่หมู่บ้านน้ำบ่อเย็น บอกว่าจะดำเนินการเรื่องขอสินเชื่อกับธนาคารสังกัดรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง สาขาแม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยยืนยันว่าใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีเอกสารรายได้หรือรายการเดินบัญชีก็กู้ได้ เธอจึงตกลง
ต่อมานายหน้าได้นัดไปที่ธนาคารมีพนักงานมาสอบถามข้อมูลกับเธอ จากนั้นไม่ถึง 10 วัน ได้รับแจ้งจากธนาคารว่าสินเชื่อผ่านแล้ว ธนาคารอนุมัติให้ 1,990,000 บาท ทำให้เธอดีใจมากที่จะได้บ้านตามที่ฝันไว้ จากนั้นธนาคารได้โอนเงินงวดแรกในวันที่ 12 กันยายน 2562 จำนวน 1,390,000 บาท พร้อมกับที่ผู้รับเหมาได้เริ่มลงเสาเข็มก่อสร้างบ้าน จากนั้นโอนงวดสองวันที่ 24 ตุลาคม 2562 จำนวน 200,000 บาท , งวดที่สาม 2 ธันวาคม 2562 จำนวน 200,000 บาท และ งวดที่สี่ 15 ธันวาคม 2563 จำนวน 100,000 บาท
นางสาวปิยะนุช บอกว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างสัญญาว่าจะก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จภายใน 1 ปี แต่หลังจากผ่านมาเกือบปี การก่อสร้างล่าช้า เธอก็ยังไม่เอะใจ เพราะคิดว่าอาจมีปัญหาบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อครบหนึ่งปีเมื่อกลางปี 2563 กลับพบว่าบ้านถูกทิ้งไว้ ไม่มีการก่อสร้างต่อ เมื่อสอบถามไปที่ธนาคาร ได้รับคำตอบว่าทางธนาคารได้โอนเงินงวดไปแล้วรวม 1.89 ล้านบาท และผู้จัดการคนก่อนที่อนุมัติสินเชื่อได้ย้ายไปสาขาอื่นแล้ว เมื่อสอบถามไปที่ผู้รับเหมา กลับได้รับคำตอบว่าได้ดำเนินการก่อสร้างไปตามเงินงวดที่ได้รับ แต่ไม่ชี้แจงว่าได้รับเงินตามจำนวนที่ทางธนาคารโอนให้หรือไม่ หลังจากนั้นก็ไม่มีคำตอบอะไรจากธนาคารและผู้รับเหมาอีก ส่วนบ้านถูกทิ้งร้างไว้ตามสภาพที่เห็น
ต่อมาเมื่อให้วิศวกรที่รู้จักมาตรวจดูบ้านก็พบว่าบ้านยังถูกลดสเปคหลายจุด หลังจากนั้นจึงกลับมานึกดูก็พบว่ามีหลายจุดที่ผิดสังเกต คือ เงินงวดที่โอนมาทั้งหมดแม้เธอจะเป็นคนเซ็นรับทุกครั้ง แต่เงินไม่ได้ผ่านบัญชีของเธอ และไม่เคยรู้มาก่อนว่าเงินถูกโอนไปที่ผู้รับเหมาหรือโอนไปที่ใครและจำนวนเท่าไหร่ ประกอบกับสินเชื่อที่อนุมัติได้ง่ายผิดปกติทั้งที่ไม่มีรายได้และไม่ต้องใช้เอกสารอื่น ทำให้เชื่อว่าอาจถูกโกง
นางสาวปิยะนุช ยอมรับว่าไม่ได้มีความรู้เรื่องการกู้เงินหรือสร้างบ้านมาก่อน คิดเพียงแต่ว่าผ่านง่ายเลยรีบกู้ รู้สึกเสียใจและผิดหวังมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะบ้านหลังนี้คือความฝัน ทุกวันนี้บ้านก็ไม่ได้อยู่และยังต้องเป็นหนี้กับธนาคารทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยอีกสามแสนกว่าบาทรวม แล้วสองล้านกว่าบาท เมื่อไม่มีคำตอบจากธนาคารสาขาดังกล่าวและผู้รับเหมา เธอจึงร้องเรียนไปที่สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ของธนาคารดังกล่าวและธนาคารแห่งประเทศไทย ขอให้เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าจะมีเรื่องที่ผิดปกติ
นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่ามีบ้านอีกหลายหลังในบริเวณเดียวกันที่ถูกโกงแบบเดียวกัน แต่ไม่ทราบว่าได้มีการแจ้งความหรือดำเนินการอย่างไร จึงขอให้สื่อช่วยเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นทีมข่าวยังไม่สามารถติดต่อสอบถามไปยังสาขา หรือ สำนักงานจังหวัดของธนาคารที่ถูกระบุได้ เนื่องจากเป็นวันหยุด
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ