"ครูไพบูลย์-กระต่าย" เจอหน้า "เอ๋ มิรา" และ "ครูประจักษ์ชัย" นัดไต่สวนคดีหมิ่นประมาท

วันนี้ (8 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ที่ศาลจังหวัดเลย มีกรณีพิพาทนัดไต่สวน ครูไพบูลย์ แสงเดือน นักแต่งเพลง พร้อมด้วยภรรยา กระต่าย พรรณนิภา นักร้องชื่อดัง กับ นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ นักแต่งเพลง และ มิรา หรือเอ๋ ชลวิรัลวานิศร์ อดีตภรรยาของครูไพบูลย์ ฟ้องร้องหมิ่นประมาท 20 ล้าน

เมื่อถึงเวลาพบว่า นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ มาพร้อมด้วยรถเก๋งหรูหลายคัน และรถแห่สิบล้อ เดินทางมาที่ศาลจังหวัดเลย จนเป็นจุดสนใจของผู้มาติดต่อราชการที่ศาลจังหวัดเลย จากนั้นไม่นานมีรถเก๋งหรูของครูไพบูลย์ 2-3 คัน ขับตามเข้ามาโดยมีการ์ดกว่า 10 คน คอยดู กระต่าย พรรณนิภา เข้าไปในศาล โดยมี มิรา หรือ เอ๋ ชลวิรัลวานิศร์ อดีตภรรยาของ ครูไพบูลย์  เข้าไปในศาลพร้อมกัน และมีทนายทั้งสองฝ่ายติดตาม  โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป ส่วน นายห้างประจักษ์ชัย ไม่ได้เข้าฟังการไต่สวนแต่อย่างไร

มิรา หรือเอ๋ ชลวิรัลวานิศร์ อดีตภรรยาของครูไพบูลย์  เปิดเผยว่า กรณีที่มีไปออกรายการช่องหนึ่ง และมีการท้าสาบานกันนั้น คู่กรณียังไม่มีคำตอบให้เลย ก็รออยู่เหมือนกัน ทางเราพร้อมสาบานอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าทางนั้นพร้อมวันไหน ยืนยันว่าเป็นความจริงทั้งหมด ส่วนวันนี้มาที่ศาลไม่มีอะไรที่จะต้องวิตกกังวล เพราะเราพูดความจริงจะไปผิดตรงไหน

นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ  เปิดเผยว่า วันนี้ที่มีการนัดไต่สวนที่ศาลจังหวัดเลย เขากล่าวหามาว่าไปออกรายการดังซึ่งเป็นคู่กรณีกัน ที่สามารถจะพูดถึงกัน เป็นข้อเท็จจริง ทางฝ่ายกฎหมายหลายๆ ท่าน และผู้ใหญ่ ว่าคู่กรณีจะต้องชี้แจง โต้แย้งสิทธิ์กัน การกระทำในอดีตที่ผ่านมาโจทก์กับจำเลย เรื่องวันนี้ไม่ได้หนักใจ สิ่งที่จะมาพูดต่อศาลในวันนี้ เป็นข้อเท็จจริง ที่น้องเอ๋ได้รับผลกระทบ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน 7 ปี เมื่อ 3 ปีก่อน ทำสัญญาหย่ากัน น้องก็อดทน ทนอยู่มา 3 ปี น้องไม่ได้เป็นคนเปิดเกมที่จะไปฟ้องก่อน โจทก์ต่างหากที่มาฟ้องเราก่อน คุณเอ๋เป็นผู้ถูกได้รับการกระทำ ในรายการว่าโดนนอกใจ และโดนใส่ร้าย สุดท้ายต้องมาโดนฟ้อง ขบวนการขึ้นสู่ศาล ซึ่งเอ๋ไม่ได้เป็นคนก่อ มีแต่อีกฝั่งหนึ่งฟ้องมา วันนี้นัดไต่สวนมูลฟ้องไม่ได้หนักใจอะไรเลย

นายนฤบดินทรา ศรีศิวารา ทนายนายห้างประจักษ์ชัย เปิดเผยว่า ตามที่นายห้างกล่าวมา ในสวนข้อเท็จจริงของคดี เป็นเรื่องราวของที่น้องเอ๋ ได้ให้ตอบคำถามกับพิธีกร น้องไม่มีเจตนาที่จะตอบ ถ้าพิธีกรไม่ถาม ก็ไม่ต้องตอบ ฉะนั้นเจตนาที่น้องเอ๋จะไปใส่ความ ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่ใช่แน่นอน น้องเอ๋พูดไปเป็นการให้สัมภาษณ์ สิ่งที่เขาได้รับกระทบจากสิ่งของเขา  ทางกฎหมายให้สิทธิ์ของเขา

ส่วนทางด้าน ครูไพบูลย์ ผู้สื่อข่าวสอบถามไปทางโทรศัพท์ บอกว่ายังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์