จับสองพ่อลูกคดีโกงเงิน 17 ล้าน ตำรวจสงสารสภาพยากจนหนัก คาดถูกนำเอกสารไปกู้เงิน
จับสองพ่อลูกคดีโกงเงิน 17 ล้าน ตำรวจสงสารสภาพยากจนหนัก ไม่น่าไปโกงเงินใคร แต่ต้องจับตามหน้าที่ คาดถูกอดีตเมียนำเอกสารไปใช้กู้เงิน
เมื่อเวลา 21.00 น. (8 พ.ย. 64) พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร ร.ต.อ.สุคนธุ์ ผลทรัพย์ รอง สว.กก.สส./หน.นปพ.จว.ชุมพร พร้อมกำลังควบคุมตัว นายสมพิศ มากแตง อายุ 31 ปี และ นายจำเริญ มากแตง อายุ 72 ปี ทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกัน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ที่ 10/2564 ลงวันที่ 10 กันยายน 2564 ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนพนักงานมีหน้าที่ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล หรือหน่วยงานที่ใช้เรียกชื่ออย่างอื่น ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตา 86 และมาตรา 91
โดยผู้ต้องหาสองพ่อลูกร่วมกับพวกรวม 17 ราย ร่วมกันทำธุรกรรมกู้เงินจากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร โดยไม่ได้มีสวนยางและสวนยางไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการสงเคราะห์ การทำสวนยาง ทำให้กองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง อำเภอท่าแซะ ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท เหตุเกิดช่วงปี พ.ศ. 2556
นายสมพิศ มากแตง อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับกล่าวว่าครอบครัวตนฐานะยากจนมีอาชีพรับจ้างตัดปาล์ม หาเช้ากินค่ำ ส่วนพ่อตนก็แก่มากแล้วมีโรคประจำตัวต้องเข้าโรงพยาบาลตลอด จะเอาปัญญาที่ไหนไปกู้ยืมหรือทำธุรกรรมทางการเงินกับใครได้ และยืนยันว่าไม่เคยไปกู้เงินจากหน่วยงานใดทั้งสิ้น แต่เมื่อประมาณกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีหมายเรียกมาส่งที่บ้านและเมียตนก็เซ็นรับไป แต่ตนก็ไม่ได้ไปพบเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียกเพราะตนไม่เข้าใจและไม่เคยไปทำธุรกรรมทางการเงินกับใครที่ไหน และไม่คิดว่าจะเป็นตนด้วยจึงไม่ได้สนใจ จนกระทั่งวันนี้ตำรวจนำหมายจับมาจับตนและพ่อตนทำให้รู้สึกตกใจมาก
นายสมพิศกล่าวต่อว่าปัญหาน่าจะเกิดมาตั้งแต่ประมาณ 6-7 ปี ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนอาศัยอยู่กินกับเมียคนแรก ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง อำเภอท่าแซะ ได้ขอเอกสารสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของตนและของพ่อตนไป บอกว่าจะเอาไปซื้ออาวุธปืนสวัสดิการให้ 1 กระบอกในราคาถูก ซึ่งตนเองก็อยากมีอาวุธปืนอยู่แล้ว แต่ในที่สุดตนก็ไม่ได้อาวุธปืน
นายสมพิศกล่าวว่าหลังจากนั้นไม่นานตนได้เลิกกับเมียคนแรกที่เป็นลูกเลี้ยงของเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางคนดังกล่าว และปัจจุบันตนมีเมียใหม่มีลูกด้วยกันสองคนแล้ว มีอาชีพรับจ้างกรีดยางหาเช้ากินค่ำทั้งชีวิตมีเงินฝากอยู่ในบัญชีธนาคารชื่อของเมียตนเพียงแค่พันกว่าบาทเท่านั้น ส่วนพ่อเลี้ยงของเมียคนแรกภายหลังทราบว่าได้ถูกให้ออกจากที่ทำงานและถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับโกงเงินในสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง อำเภอท่าแซะ จึงไม่ทราบว่าทำไมตนจึงไปเป็นหนี้สินร่วมกับคนอื่นในสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางได้อย่างไร จึงขอความเป็นธรรมจากผู้เกี่ยวข้องด้วย
ด้าน นายจำเริญ มากแตง อายุ 72 ปี กล่าวว่าตนอายุมากแล้วมีโรคประจำตัว โรคหัวใจ ต้องกินยาประจำ และในวันศุกร์นี้หมอที่โรงพยาบาลนัดให้ไปผ่าตัดเอาก้อนเนื้อในกระเพาะออก ปัจจุบันตนไม่มีรายได้อะไร ได้กินได้ใช้จากเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุจากรัฐบาลเท่านั้น แล้วมาถูกจับกุมดำเนินคดี โดยที่ตนไม่เคยไปกู้เงินจากที่ใดเลย จะต้องมาติดคุกตอนแก่ และจะเอาปัญญาที่ไหนไปใช้หนี้อีกเป็นล้าน
ขณะที่ พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร กล่าวว่าตนก็ทำตามหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปช. ซึ่งดูจากสภาพของสองพ่อลูกแล้วตนก็รู้สึกสงสารมากเพราะมีฐานะยากจนจริงๆ หลังจากนี้ตนก็ต้องนำผู้ต้องหาทั้งสองคนไปส่งศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ต่อไป