สธ.สุดงง! วัคซีนจอห์นสันฯ มีฉีดในไทยได้ไง-สสจ.สระแก้ว คาดนำเข้ามาจากกัมพูชา

กรณีที่มีการแชร์ข้อมูลผู้ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” ที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว โดยมีค่าใช้จ่าย 2,800 บาทนั้น กระทรวงสาธารณสุขระบุอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ขณะที่ สสจ.สระแก้ว คาดประชาชนอาจนำเข้ามาจากกัมพูชา

วานนี้ (8 พ.ย.) นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า วัคซีนที่นำเข้าโดยผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตนำเข้า ก็ถือเป็นวัคซีนผิดกฎหมายทั้งหมด อันดับแรกต้องตรวจสอบว่า วัคซีนที่นำเข้ามาใช่วัคซีนจอห์นสันฯ หรือไม่ แต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าตอนนี้ คือ บริษัท แจนเซ่น ซีแลค จำกัด

ดังนั้น หากเป็นคนอื่นๆ บริษัทอื่นนำเข้ามา ถือว่าผิดทั้งนั้น เบื้องต้นการเอาเข้ามาโดยไม่รับได้อนุญาต ถือว่าผิด พ.ร.บ.ยา มาตรา 12 ที่บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การฉีดวัคซีนใดก็ตาม จะต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เท่านั้น สำหรับวัคซีนโควิด-19 ก็เช่นกัน ซึ่งวัคซีนจอห์นสันฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. แล้ว โดยที่ผ่านมาสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ได้นำเข้าวัคซีนจอห์นสันฯ ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อฉีดให้ประชากรของฝรั่งเศสที่พำนักในไทย แต่ในส่วนของสระแก้ว ต้องสอบถามทาง นพ.สสจ.

ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ต่อให้ไม่ใช่วัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ยาหรือวัคซีนใดๆ ก็ตาม ตามหลักแล้วคนไข้มาที่คลินิก ทางคลินิกจะต้องใช้ยาหรือวัคซีนของคลินิกเองในการให้บริการคนไข้ หากคลินิกไม่มีกำลังเพียงพอ จะมี 2 ส่วนที่ทำได้คือ 1. ประสานส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่มีศักยภาพกว่า และ 2. ประสานสถานพยาบาลอื่นๆ เพื่อขอยืมยา หรืออะไรก็ตามเพื่อมาให้บริการผู้ป่วย นี่คือหลักที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปเอาอะไรก็ไม่รู้มาฉีดให้ ยิ่งคนไข้หิ้วมาเองก็ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน

ขณะที่ นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว (นพ.สสจ.สระแก้ว) คาดการณ์ว่า อาจมีการนำวัคซีนนี้มาจากประเทศกัมพูชา เนื่องจากข้อมูลการฉีดวัคซีนในภูมิภาคอาเซียน เมื่อวันที่ 5 พ.ย. แจ้งว่า ประเทศเพื่อนบ้านที่มีวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน คือ กัมพูชา ซึ่งได้รับบริจาคมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 1.06 ล้านโดส เช่นเดียวกับลาว ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกาเช่นกัน จำนวน 1 ล้านโดส

นอกจากนี้ นพ.สสจ.สระแก้ว ระบุว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อหาว่าวัคซีนดังกล่าวมาจากที่ไหน หลังมีผู้นำใบรับรองแพทย์การฉีดวัคซีนจอห์นสันฯ จากคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัด มาขอวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) แต่ไม่พบข้อมูลการฉีดใน MOPH-IC จึงไม่ได้ออกวัคซีนพาสปอร์ตให้ เพราะถือว่าไม่ได้รับการฉีดจากภาครัฐ

หลังจากนั้น สสจ. ลงไปตรวจสอบคลินิกเอกชนดังกล่าว ก็ไม่พบผลิตภัณฑ์วัคซีน ไม่มีการขายวัคซีนด้วย แต่แพทย์ยอมรับว่ามีการฉีดจริง อ้างว่าคนไข้เอามาให้ฉีด ซึ่งคนไข้ซื้อจากที่ไหนไม่รู้ แล้วหิ้วมาให้หมอฉีด โดยเก็บค่าฉีด แต่คุณหมอที่คลินิกไม่ได้เป็นคนซื้อวัคซีนมาฉีด ซึ่งทางคลินิกอ้างว่าไม่รู้ว่าคนไข้นำวัคซีนมาจากไหน ส่วนจะเป็นวัคซีนของปลอมหรือไม่ เราไม่สามารถตอบได้ แต่น่าจะเป็นการแอบอ้างแล้วถือมาให้หมอฉีดให้ จึงดำเนินการตักเตือนให้ระมัดระวังการประกอบวิชาชีพ

ทั้งนี้ สสจ.สระแก้ว พยายามรณรงค์และเร่งฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ให้ได้ครบ 70% ในช่วงปลายเดือนนี้ รวมทั้งชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งวันนี้มีการฉีดวัคซีนให้คนกัมพูชาในตลาดโรงเกลือไปแล้ว 2,000 กว่าคน และที่สมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพาอีก 500 คนเศษ และจะฉีดไปเรื่อยๆ ตามความต้องการ โดยฉีดเข็ม 1 เป็นซิโนแวค ตามด้วยเข็ม 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า

ล่าสุด จ.สระแก้ว ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มได้เพียง 47% โดยกลุ่ม 608 ฉีดได้ 55% ถือว่ายังไม่เข้าเป้าหมาย จึงต้องเร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ค้นหาผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เพื่อให้มาฉีดมากขึ้นต่อไป