สุดสลด..หนุ่มใหญ่โทรหา รพ. ขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทัน สิ้นใจกลางถนนย่านประชาอุทิศ

สุดสลด..หนุ่มใหญ่โทรหา รพ. ขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทัน สิ้นใจกลางถนนย่านประชาอุทิศ

สุดสลด..หนุ่มใหญ่โทรหา รพ. ขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทัน สิ้นใจกลางถนนย่านประชาอุทิศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 03.05 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ร้อยตำรวจเอก จีรศักดิ์ หอมนาน รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งมีชายวัยกลางคนหมดสติ อยู่บนสะพานปูนท้ายซอยประชาอุทิศ 15  จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ พบผู้ป่วยเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อ นายจำรัส อายุ 56 ปี เป็นชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา อยู่ในสภาพนอนหมดสติ บนสะพานปูนข้างคลองแจงร้อน ท้ายซอยประชาอุทิศ 15 ถนน ประชาอุทิศ เเขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จึงรีบปฐมพยาบาล ให้การช่วยเหลือโดยการทำ CPR ทันที แต่ไม่เป็นผล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงประสานเหตุต่อไปที่แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ผู้ที่พบเหตุการณ์เป็นคนแรกคือ นายปรีชา เสถียร อายุ 27 ปี เล่าว่า ตนกำลังจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน บังเอิญพบชายคนดังกล่าวนอนขวางทางอยู่ จึงจอดรถแล้วพยายามไปปลุกให้ขยับตัว ลุกออกจากถนน เกรงว่าจะถูกรถชน ตอนแรกนึกว่าจะเป็นคนเมามานอนอยู่ตรงนี้ แต่พอเดินเข้าไปดูก็เห็นว่ามีน้ำลายฟูมปากแล้ว และสักพักก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของผู้ตายดังขึ้น จึงรับสาย แต่ปลายสายเป็นพยาบาลจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แจ้งว่าผู้ตายได้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือ ว่ามีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ตนจึงบอกว่าผู้ตายหมดสติไปแล้ว ปลุกไม่ตื่นเลย แล้วมีน้ำลายฟูมปากออกมาด้วย ก่อนที่ปลายสายก็วางไป

ตนรีบโทรแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ แล้วยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และพออาสาสมัครกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง อาสาสมัครให้การช่วยเหลืออยู่นาน ก่อนจะแจ้งว่าตายแล้ว ตนเองก็ตกใจ และก็กลัวว่าชายคนดังกล่าวจะติดเชื้อโควิด-19 ด้วยหรือไม่

ส่วนเบื้องต้นอาสาสมัครต้องสวมชุด PPE และใช้อุปกรณ์การตรวจเชื้อโควิด-19 โดยใช้ชุดตรวจ ATK แล้วผลการตรวจออกมาเป็นลบ แต่ยังไม่มั่นใจ จึงตรวจสอบเพิ่มเติม และพบว่าผู้เสียชีวิตยังไม่เคยฉีดวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว

เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช จึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวช ก่อนที่จะเร่งติดต่อหาญาติมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook