ฟังอีกมุม เสี่ยเต็นท์รถแจงปมฟ้องสาว 15 ล้าน ญาติฝ่ายหญิงแฉ ทำต้องบวชล้างซวย 17 ปี

ฟังอีกมุม เสี่ยเต็นท์รถแจงปมฟ้องสาว 15 ล้าน ญาติฝ่ายหญิงแฉ ทำต้องบวชล้างซวย 17 ปี

ฟังอีกมุม เสี่ยเต็นท์รถแจงปมฟ้องสาว 15 ล้าน ญาติฝ่ายหญิงแฉ ทำต้องบวชล้างซวย 17 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสี่ยเต็นท์รถ ปมฟ้องร้องสาวและแม่ 15 ล้าน ยืนยันไม่เคยมีความสัมพันธ์กันฉันท์ชู้สาว ญาติเผยเคยมาหลอกเอาที่ดินไปจำนองแล้วปล่อยให้หลุดจำนำ ช้ำใจจนต้องบวชพระล้างซวย 17 ปี

จากกรณี น.ส. น้อย (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ชาว ต.หนองไทร อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง ว่าถูกเสี่ยเต็นท์รถใน อ. นางรอง ฟ้องร้องตนเองกับแม่ที่ป่วยจิตเวช ฐานฉ้อโกงเงินกว่า 15 ล้านบาท

จนกระทั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินตัวเองกับแม่ มีความผิดและมีโทษจำคุกคนละ 5 ปี ทั้งที่เงินดังกล่าวที่เสี่ยฟ้องเป็นการให้ด้วยความเสน่หาเนื่องจากเสี่ยมีความสัมพันธ์กับตนลึกซึ้งฉันสามีภรรยามานานหลายปี แต่กลับมาถูกฟ้องร้องอย่างไม่เป็นธรรมตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าตรวจสอบพบ นายเอ (นามสมมติ) เสี่ยเต็นท์รถที่ถูก น.ส.น้อย กล่าวหาว่าทำเกินกว่าเหตุจนสร้างความเดือดร้อนให้กับสองแม่ลูก โดยเสี่ยเอ เล่าว่า เบื้องต้นตนไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับ น.ส.น้อย มาก่อน และแม่ของ น.ส.เอ ไม่ได้ป่วยเป็นจิตเวช  เพราะตอนนั้นทั้งสองคนมากู้ยืมเงินและเซ็นเอกสารรับสภาพทุกครั้งที่มาเอาเงินมีทั้งโอน และมาเอาเงินสด

สาเหตุที่ใช่เงินไปเป็นจำนวนมากนั้นเพราะ น.ส.น้อย กลับแม่อ้างว่าจะมีเงินมาจากต่างประเทศและจะมีการเปิดบริษัทใหญ่ ตนจึงทำหลักฐานไว้อย่างแน่นหนาสุดท้ายก็เป็นจริงคือฉ้อโกงเงินของตนเองไป

เสี่ยเอ กล่าวด้วยว่า ตนทำทุกอย่างตามกระบวนการของกฎหมายไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง ศาลเค้ามองเห็นพยานและหลักฐานชัดเจนจึงตัดสินให้ทั้งแม่ทั้งลูกมีความผิดตามคำฟ้องจึงตัดสินให้จำคุกดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ น.ส.น้อย ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมและร้องสื่อสารมวลชน ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นเผือกสุดท้ายที่ น.ส.เอ จะสู้เพื่อให้ตัวเองหลุด เนื่องจากศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาครั้งสุดท้ายในวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลฎีกาได้ยืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์คือจำคุกสองแม่ลูกคนละ 5 ปี เนื่องจากไม่มีเงินมาชำระตามคำฟ้องดังกล่าว

ยืนยันไม่เคยกลั่นแกล้ง และไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งตามที่ น.ส.น้อย กล่าวอ้าง ตรงกันข้ามกลุ่มนี้เป็นพวก 18 มงกุฎมากกว่า

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามญาติของ น.ส.น้อย พบ นายสูตร อายุ 85 ปี มีศักดิ์เป็นญาติของ น.ส.น้อย เล่าว่า เมื่อปี พ.ศ.2547 น.ส.น้อย เคยมาขอยืมโฉนดที่ดินจำนวน 10 ไร่ ของตนบอกว่าจะเอาไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อเอาเงินออกมาลงทุน

ตนก็ให้ไปเพราะเห็นว่าเป็นหลาน จำได้ว่าเป็นเงินประมาณ 300,000 บาท แต่หลานสาวไม่เคยส่งดอกให้กับบริษัทและไม่เคยไปชำระเงินใดๆ ทั้งสิ้น จนบริษัททักทวงมาหลายครั้งสุดท้ายบริษัทฟ้องและถูกยึดที่นาไปจำนวน 10 ไร่

ตอนนั้นยอมรับว่าเสียใจมากเพราะมีที่นาผืนเดียวจึงตัดสินใจไปบวชพระเพื่อล้างซวย และไม่อยากเห็นหน้าหลานเพราะเกรงจะทำใจไม่ได้ และเพิ่งสึกออกมาเมื่อไม่นานมานี้เอง รวมไปบวชพระทั้งหมด 17 พรรษา (17 ปี) ส่วนกรณีของเสี่ยตนไม่ทราบเรื่องและไม่อยากรับฟัง และไม่อยากกล่าวหาหลานในเรื่องที่ตนไม่เห็น แต่เรื่องของตนกับหลานยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook