หนุ่มวัย 19 ปี ถูกไฟช็อตดับ แม่ตัดสินใจบริจาคอวัยวะ ช่วยต่อชีวิตได้อีก 6 คน
แม่ทำกุศลใหญ่ให้ลูกชายวัย 19 ปี หลังไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต บริจาคอวัยวะให้ รพ.เพชรบูรณ์ ช่วยต่อชีวิตได้ถึง 6 คน
วันนี้ (14 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ศูนย์บริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ มอบเกียรติบัตรจากสภากาชาดไทย และศูนย์บริจาคดวงตา พร้อมพวงหรีดให้แก่ นายสิทธิศักดิ์ เดชธิสา อายุ 19 ปี ชาว จ.ระนอง ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตในขณะที่ปฏิบัติงาน และได้บริจาคอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกถึง 6 คน โดยมีญาติเป็นตัวแทนรับมอบ
นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยถูกไฟฟ้าช็อตขณะทำงานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอศรีเทพ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีเทพ และถูกส่งต่อมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ทำการดูแลรักษาอย่างสุดความสามารถ
ต่อมาแพทย์ได้ลงความเห็นว่า มีภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าได้เสียชีวิตแล้ว พยาบาลศูนย์บริจาคอวัยวะได้แจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งญาติก็ได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะของผู้เสียชีวิตทุกส่วน
แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดในหลายๆ จึงทำให้ได้อวัยวะบางส่วน ประกอบด้วย ลิ้นหัวใจ ตับ ดวงตา 2 ข้าง ไต 2 ข้าง ซึ่งสามารถไปช่วยต่อชีวิตให้บุคคลอื่นได้อีกถึง 6 คน จึงนับว่าเป็นบุญกุศลเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าผลบุญที่บริจาคอวัยวะ และนำไปช่วยชีวิตคนอื่นได้อีกถึง 6 คนนี้ จะส่งผลให้ผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี
ด้าน นางกิรติกา เดชธิสา อายุ 40 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนและลูกชายเป็นชาวจังหวัดระนอง โดยลูกชายมีอาชีพเป็นช่างเชื่อม ติดตามผู้รับเหมาไปทำงานตามที่ต่างๆ โดยเมื่อเดือนก่อนได้มาก่อสร้างอาคารของโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอศรีเทพ และทุกๆ วัน ลูกชายจะวีดีโอคอลคุยกันทุกวัน
ในวันเกิดเหตุหลังพักเที่ยง ลูกชายได้วีดีโอคอลมาคุยกับตนเช่นเคย และได้พูดคุยกันตามปกติ แต่ตนสังเกตเห็นว่าลูกชายมีสีหน้าที่เหนื่อยอ่อน ตนจึงบอกให้ทำงานด้วยความระมัดระวัง แต่ยังพูดไม่ทันจบสายก็ตัดไป
หลังจากนั้นอีกประมาณ 20 นาที ลุงที่ทำงานด้วยกันก็โทรมาบอกว่า ลูกชายถูกไฟฟ้าช็อตอาการหนัก ขณะนี้ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลศรีเทพ และถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเพชรบูรณ์แล้ว ตนและครอบครัวจึงรีบเดินทางมาดูแลที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
กระทั่งวันที่ 13 พ.ย. แพทย์ได้แจ้งว่า ลูกชายมีภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว และพยาบาลได้แจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะ เพื่อนำไปช่วยชีวิตบุคคลอื่น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะร่างกายและอวัยวะลูกก็จะถูกเผาทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์
ถ้านำไปช่วยเหลือชีวิตคนอื่นได้ ก็ถือว่าเป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งสุดท้ายให้แก่ลูกชาย ตนจึงยินดีที่จะมอบอวัยวะของลูกชายไปช่วยคนอื่น เพราะเชื่อว่าบุญกุศลในครั้งนี้จะส่งผลให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี
และหากดวงวิญญาณของลูกรับรู้ได้ อยากบอกว่าแม่กับพ่อรักลูกมาก บุญกุศลที่ลูกได้บริจาคอวัยวะในครั้งนี้ ขอให้ลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยเกเร ไม่เคยที่จะทำให้พ่อแม่เสียใจเลย และหากชาติหน้ามีจริง ขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ