ส่งผู้ต้องหาโกง "เราเที่ยวด้วยกัน" กว่าร้อยคน ให้อัยการสั่งฟ้อง มูลค่าเสียหาย 100 ล้าน

ส่งผู้ต้องหาโกง "เราเที่ยวด้วยกัน" กว่าร้อยคน ให้อัยการสั่งฟ้อง มูลค่าเสียหาย 100 ล้าน

ส่งผู้ต้องหาโกง "เราเที่ยวด้วยกัน" กว่าร้อยคน ให้อัยการสั่งฟ้อง มูลค่าเสียหาย 100 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเผยโกง “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” เสียหายกว่า 100 ล้านบาท ส่งตัวผู้ต้องหากว่าร้อยคนให้อัยการสั่งฟ้อง ลั่นยอมความไม่ได้ จ่อดำเนินคดีถึงที่สุด

วันนี้ (15 พ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ให้สัมภาษณ์ภายหลังนำสำนวนพร้อมผู้ต้องหาคดีทุจริตโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เกือบ 150 ราย ส่งอัยการสั่งฟ้อง โดยระบุว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อส่งเม็ดเงินไปสนับสนุนเศรษฐกิจทั่วประเทศ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของโรงแรม ร้านค้าร่วมโครงการ และประชาชน

พล.ต.ท.ชยพล กล่าวว่า กรณีดังกล่าว มีประชาชนบางกลุ่มใช้วิธีการฉ้อฉล โดยผู้ประกอบการหรือประชาชนบางกลุ่มจะมีการนำสำเนาบัตรประชาชนพร้อมหมายเลขบัตรประชาชนมาทำการลงทะเบียนแอปพลิเคชันถุงเงิน และเป๋าตัง เพื่อเปิดใช้สิทธิ์จากโครงการดังกล่าว แล้วนำเงินที่รัฐบาลสนับสนุนไปใช้จ่ายเป็นค่าตอบแทนแลกเปลี่ยนเป็นจำนวนเงิน โดยที่ไม่ได้มีการเข้าไปพักในโรงแรมหรือซื้อของในร้านค้าแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาบางรายได้มีการแลกเงินจากโครงการดังกล่าวเพียง 100 ถึง 150 บาทเท่านั้น ซึ่งตนคิดว่าไม่คุ้มเป็นอย่างมากที่จะถูกดำเนินคดีจากการกระทำดังกล่าว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงแจ้งความกับกองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขอยืนยันว่าทาง ตร. จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกรายอย่างเด็ดขาด รวมทั้งฝากเตือนโรงแรม ร้านค้า และประชาชนว่าอย่าทำพฤติการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก

ทางด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ ระบุว่า ผู้รวบรวมสิทธิ์มีการนำบัตรประชาชนและเลขบัตรประชาชนเข้าระบบลงทะเบียนตามปกติเพื่อใช้สิทธิ์ ซึ่งทุจริตโดยการไม่ได้เดินทางเข้าพักในโรงแรมจริง และไม่ได้มีการซื้อสินค้าตามความเป็นจริง สำหรับคดีนี้รัฐบาลเป็นผู้เสียหายโดยตรง ซึ่งผู้ต้องหามีการทุจริตโกงเงินงบประมาณของรัฐบาล โดยตำรวจจะดำเนินคดีผู้ต้องหาทุกราย เนื่องจากเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ และมีโทษหนักอาจติดคุกหลายปี

สำหรับคดีทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกันในจังหวัดชัยภูมิ มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นราว 70 ล้านบาท และจังหวัดภูเก็ต มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นราว 20 ล้านบาท โดยขณะนี้มีการร้องทุกข์กับ ตร. แล้วกว่า 1,000 คดี ซึ่งทุกคดีจะมีการดำเนินทางกฎหมายทุกราย

ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์เข้ามาแต่อย่างใด แต่มีการแจ้งเบาะแสแล้วว่าพบการทุจริต อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนประชาชนพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวคุ้มหรือไม่กับคดีความที่ได้รับมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook