หนุ่มปวดท้องเข้ารักษาโรคตับ แต่ดับเพราะติดโควิด ญาติซัดโรงพยาบาลคัดกรองไม่เข้ม

หนุ่มปวดท้องเข้ารักษาโรคตับ แต่ดับเพราะติดโควิด ญาติซัดโรงพยาบาลคัดกรองไม่เข้ม

หนุ่มปวดท้องเข้ารักษาโรคตับ แต่ดับเพราะติดโควิด ญาติซัดโรงพยาบาลคัดกรองไม่เข้ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มปวดท้องเข้ารักษาโรคตับ แต่ดับเพราะโควิด-19 ญาติเผยไม่ใช่รายแรกที่ติดเชื้อจากโรงพยาบาลที่คัดกรองไม่เข้มงวด

ที่บริเวณห้องรับศพโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ญาติของ นายที (นามสมมติ) อายุ 44 ปี ชาว อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง จุดธูปเชิญวิญญาณของนายทีตามความเชื่อเพื่อนำวิญญาณกลับบ้าน หลังนายทีเสียชีวิตลงเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา จากการเข้ารับการรักษาโรคตับที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่กลับติดเชื้อโควิด-19 จนกระทั่งเสียชีวิตลง โดยหลังจากทำพิธีเชิญวิญญาณแล้ว ทางญาติได้เดินทางไปรอทำพิธีฌาปนกิจศพที่วัดโบสถ์ ต.ย่านซื่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นสถานที่รับเผาศพผู้ป่วยโควิด-19 โดยมีรถของทางโรงพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าที่ใส่ชุดป้องกันและนำร่างของนายทีที่ใส่ถุงซิปป้องกันการแพร่เชื้อมาทำการฌาปนกิจทันที  

พี่ชายของนายทีเปิดเผยว่า เมื่อหลายวันก่อนน้องชายของตนขับรถจักรยานยนต์ไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภอเนื่องจากปวดท้องบ่อยครั้ง โดยยังเดินเหินได้ตามปกติ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหมอก็ได้ทำการรักษาและส่งตัวต่อมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ พอหลังจากนั้นไม่กี่วันน้องของตนที่พูดคุยได้ กลับติดเชื้อโควิด-19 จนมีอาการทรุดลงและเสียชีวิตลงตนเอง ยืนยันว่าก่อนหน้านี้น้องชายตนไม่ได้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 แต่พอมารักษาโรคตับกลับติดโควิด-19 ได้อย่างไร ตอนนี้ครอบครัวรู้สึกติดใจว่าทำไมโรงพยาบาลไม่มีการคัดกรองผู้ป่วยให้ดีกว่านี้ เพราะเท่าที่ทราบน้องชายตนไม่ใช่รายแรก 

ขณะที่มารดาของนายที บอกว่า เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมานายทีโทรมาบอกว่ายังกลับบ้านไม่ได้เพราะติดเชื้อโควิด-19 และต้องย้ายตึกไปอยู่อีกตึกหนึ่งซึ่งเป็นตึกผู้ป่วยโควิด 14 วัน โดยโทรมาสั่งให้เอาของและทำกับข้าวไปให้ แต่ก็ไม่ได้พบกันเพราะเขาห้ามเยี่ยม ไม่คิดว่านั่นจะเป็นเสียงสุดท้ายของลูกที่ได้ยินเพราะพอหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อนายทีได้อีกเลยมีแต่ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งอาการ สุดท้ายเมื่อคืนที่ผ่านมาประมาณ 2 ทุ่มก็โทรมาบอกว่านายทีเสียชีวิตแล้ว  

ด้านน้าสาวของนายที เปิดเผยว่า ตอนที่นายทีมารักษาตัวนั้นขับรถจักรยานยนต์มาเองซึ่งถ้าป่วยจากโรคประจำตัวและมารักษาก็คงไม่ตายเร็วอย่างนี้ แต่เพราะมาติดโควิด-19 ที่โรงพยาบาลก็เลยเสียชีวิตเร็วมาก ซึ่งหลังจากพูดคุยกับทางโรงพยาบาลก็แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการจัดการฌาปนกิจศพให้ และจะประสาน สปสช.ในเรื่องของการเยียวยา แต่หากไม่มีการช่วยเหลือทางโรงพยาบาลก็จะเข้ามาดูแล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอดูเคสก่อน ซึ่งทางญาติก็อยากให้การคัดกรองของทางโรงพยาบาลมีความเข้มงวดกว่านี้ เพราะเท่าที่ได้ยินมาหลานชายคนไม่ใช่คนแรก และอยากให้กรณีหลานชายตนเป็นคนสุดท้ายที่ต้องมาเสียชีวิตเร็วอย่างนี้ รวมถึงหากยังไม่เข้มในการคัดกรองมากกว่านี้ต่อไปก็คงต้องติดกันทั้งผู้ป่วย ทั้งพยาบาลที่ต้องดูแลคนไข้ จึงอยากให้เพิ่มความระมัดระวังและคัดกรองให้ดีกว่านี้ 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook