บิ๊กบังเปิดตัว นั่งหน.พรรคมาตุภูมิ!

ทนกลิ่นเย้ายวนเกมแห่งอำนาจไม่ไหว "บิ๊กบัง" เลิกลับลวงพราง โดดลงคลุกการเมืองรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคมาตุภูมิเต็มตัว พุ่งเป้าแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหลัก เผยพร้อมทำงานร่วมกับ "เพื่อไทย" ถ้านโยบายสอดคล้องกัน แย้มทาบเพื่อน เตรียมทหารมาร่วมงานอื้อ โหรชื่อดังทำนายปีหน้า "มาร์ค"จบเห่ นายกฯใหม่เป็นคนถืออาวุธ เตือน 3 เดือนอันตรายถึงขั้นนองเลือด ด้าน ปชป.เถียงคอเป็นเอ็นคดียุบพรรคไทยรักไทยจบไปแล้ว เอาพยานมาก็ไร้ค่า ศาลรัฐธรรมนูญชี้รื้อคดีไม่ได้ แต่ฟ้องเล่นงาน 2 พยานได้ เพื่อลากไปยุบพรรคประชาธิปัตย์

* "บิ๊กบัง"เลิกลับลวงพราง

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่พรรคมาตุภูมิ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. แถลงข่าวเปิดตัวร่วมงานกับพรรคมาตุภูมิอย่างเป็นทางการว่า ตนได้ตัดสินใจเข้าร่วมทำงานกับพรรคมาตุภูมิอย่างเต็มตัว และตอบรับเป็นหัวหน้าพรรค เหตุผลก็คือนโยบายและความคิดของพรรคมีแนวนโยบายที่เป็นกลาง ตนเห็นว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบันแนวนโยบายของพรรคเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์การเมืองและสังคมให้น่าอยู่ เมื่อแนวนโยบายตรงกับความคิดจึงเห็นว่าคือแหล่งที่เราสามารถทำได้

พล.อ.สนธิกล่าวต่อว่า ปัญหาที่สำคัญ ก็คือสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประชาชนเสียชีวิตไปเกือบ 4,000 ศพ ในเวลาเพียงไม่กี่ปี ซึ่งพรรคจะเสนอร่าง พ.ร.บ. ทบวงการบริหารกิจการชายแดนภาคใต้เข้าสู่การประชุมสภา เมื่อถามว่า หากมีการเลือกตั้งพรรคพร้อมที่จะจับมือกับทางพรรคเพื่อไทยทำงานหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ถ้านโยบายถ้าสอดคล้องกันก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้านโยบายขัดแย้งกันก็คงจะเป็นคนละทาง

* พร้อมทำงานกับ "เพื่อไทย"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะอดีตประธาน คมช.และโค่นล้มระบอบทักษิณ ท่านสามารถที่จะร่วมงานกับคนเหล่านี้ได้หรือ พล.อ. สนธิกล่าวว่า ปัญหาอยู่ที่ว่าเวลานั้นตนเป็นประธาน คมช. แต่ตอนนี้ตนเป็นหัวหน้าพรรค เป็นคนละอย่างกันแล้ว เราต้องถอดบทบาทตรงนั้นออกไปจากตัวเรา

เมื่อถามว่า จะชี้แจงกับประชาชน ได้อย่างไรว่า เคยปฏิวัติมาก่อนแล้วมาลง เลือกตั้ง พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนถือระบอบประชาธิปไตยเป็นตัวตั้ง และประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นตัวกำหนดทิศทางในการปฏิบัติ ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาถูกมอง ว่าใช้การปฏิวัติเป็นการปูทางนำไปสู่การทำงานทางการเมือง พล.อ.สนธิกล่าวว่า อย่า ไปมองอย่างนั้น ต้องมองว่าตอนนั้นเกิด อะไรขึ้น และเราต้องแก้ปัญหาอย่างไร ตนบอกเสมอว่าปฏิวัติเพราะต้องการรักษาประชาธิปไตย

* เผยทาบทหารหลายรุ่น

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้ามองย้อนกลับไปจะปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า คิดถอยหลังไปก็เป็นไปไม่ได้ แต่เวลานี้มันเป็นอย่างนี้เพราะอะไรเราศึกษาตรงนี้ดีกว่า เมื่อถามว่า ได้ชักชวนเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 6 เข้ามาช่วยทำงานกับพรรคหรือไม่ พล.อ. สนธิกล่าวว่า ประชาชนคนใดที่อยากจะมาช่วยแก้ปัญหาบ้านเมืองก็ขอเชิญจะเป็น ใครก็ได้ เพราะเราต้องการเห็นบ้านเมือง มีความรักสามัคคี การเมืองมีความซื่อสัตย์สุจริต

"ผมทาบทามหลาย ๆ ท่านไม่ใช่แต่เฉพาะทหาร ตท.6 เท่านั้น ทาบทามตั้งแต่ ตท.1 ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะมีทยอยเข้ามาร่วมทำ งานในพรรค ทั้งนี้คนที่มาทำงานร่วมกันต้องเป็นคนดี" อดีตประธาน คมช.กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกที่จะเปิดตัวในช่วงนี้เพราะประเมินว่าภายในไม่กี่เดือนนี้รัฐบาลจะไปใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า การเมือง ยังคงอีกยาว ตนมองว่าพรรครัฐบาลถ้ายังไม่เข้มแข็งพอเขาก็ยังไม่ยุบสภา

* แนะให้เตรียมใจรับศึก

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิเปิดตัวเป็นหัวหน้าพรรคมาตุภูมิว่า เมืองไทยมีคนชื่อสนธิ 2 คนคือนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯและ พล.อ.สนธิ ที่ผ่านมาคนทั้งคู่ออกมาด่าว่าการเมืองเป็น เรื่องชั่วร้าย แต่สุดท้ายคนชื่อสนธิก็มาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งคู่ ประชาชนจะเชื่อถือคนทั้ง 2 ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามพรรคยินดีต้อนรับ พล.อ.สนธิเข้าสู่การเมือง อย่างน้อยก็เป็นการพิสูจน์ว่าการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยดีกว่าเผด็จการ

"อยากแนะนำให้ พล.อ.สนธิทำใจไว้ล่วงหน้า และเก็บงำความลับส่วนตัวไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบลับครั้งที่ก่อการรัฐ ประหารหรือเรื่องอื่น ๆ เพราะว่าการเมืองขุดกันทุกเรื่องเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ขุดกระดูกนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยมาด่า เมื่อถึงเวลานั้นพล.อ.สนธิอย่าโกรธ ขอให้เก็บความรู้สึกให้ดี และให้ระวังว่าคนที่เชิญท่านมาเป็นหัวหน้าพรรคจะแทงข้างหลังท่านเสียเอง" นายสุชาติกล่าว

* ปชป.เถียงคดีจบไปแล้ว

ส่วนการเมืองอื่นนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย อ้างหลักฐานและพยานบุคคลกล่าวหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าจ้างคนให้การเท็จต่อศาลเพื่อยุบพรรคไทยรักไทยว่า เรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นและไม่กระทบถึงคดี เพราะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุดของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว ถ้ามูลนิธิ 111 จะไปฟ้องร้องดำเนินคดีใหม่เราก็ไม่หวั่นไหว

นายสาทิตย์ยังกล่าวถึงการเปิดตัว พล.อ.สนธิเป็นว่าที่หัวหน้าพรรคมาตุภูมิคนใหม่ว่า การเมืองไทยมีการเกิดขึ้นของพรรคใหม่และการเปลี่ยนแปลงของพรรคเก่า เรายินดีต้อนรับทุกคนที่เข้าสู่กระบวนการทางการเมือง หาก พล.อ.สนธิคิดว่าเป็นการแสดงออกถึงความเลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยก็ยินดีต้อนรับ พรรคไม่กังวลต่อฐานเสียงในภาคใต้ เราตั้งมา 60 กว่าปี ผ่านสถานการณ์การเมืองมาทุกรูปแบบ ถือเป็นเรื่องดีจะได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น

* ท้าเดิมพันใครแหลยุบพรรค

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อทบทวนคำตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยว่า กระบวนการพิจารณาตัดสินได้สิ้นสุดลงแล้ว จึงไม่สามารถทบทวนใหม่ได้ เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเกมการเมืองของพรรคเพื่อไทย ที่พยายามป่วนรัฐบาล

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอท้าให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเดิมพันด้วยการยุบพรรค ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ผิดจริงให้ยุบพรรคแต่ถ้าพรรคเพื่อไทยตลบตะแลงก็ให้ยุบพรรคเพื่อไทยเป็นครั้งที่ 3 พรรคเพื่อไทยอย่าแอบอยู่หลัง พล.อ.พัลลภ การส่งมาดำเนินการเรื่องนี้เป็นเกมดิสเครดิต ถ้าจะเอาผิดในตอนนี้ก็เอาผิดได้เพียง พล.อ.พัลลภและพยานทั้ง 2 คนเท่านั้น

* กกต.ยันรื้อคดีไม่ได้

นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การรื้อฟื้นคดีนี้ไม่สามารถทำได้ คดีที่จะสามารถรื้อฟื้นได้นั้นต้องเป็นคดีอาญา แต่คดีนี้เป็นคดีทางการเมือง อีกทั้งได้วินิจฉัยโดยตุลาการรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2550 เรื่อง การเบิกความเท็จน่าจะไปดำเนินคดีอาญาว่า พยานทั้ง 2 ได้ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน และศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่

"การยุบพรรคไทยรักไทยเป็นการยุบตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 66 (1) และ (3) ซึ่งยกเลิกไปแล้ว ดังนั้นเราคง ไม่สามารถรื้อฟื้นคดียุบพรรคไทยรักไทยได้ คำวินิจฉัยยุบพรรคได้รับการรองรับตามรัฐธรรมนูญมาตรา 309 ดังนั้นการกระทำใด ๆ ที่ดำเนินการไปแล้วน่าจะถึงที่สุด"นางสดศรีกล่าวและว่า ส่วนพยานที่กลับคำให้การ คงต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเสียก่อนว่าเป็นการให้การเท็จจริงหรือไม่ หากผิด กกต. จะดำเนินการเอาผิดฐานให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน

* กมธ.เตรียมเรียกพยานสอบ

รายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า ตามขั้นตอนกฎหมายของศาลรัฐธรรมนูญ ความแพ่งเมื่อมีการวินิจฉัยถึงที่สุดแล้วไม่สามารถรื้อคดีขึ้นมาใหม่ได้ จะทำได้เฉพาะ คดีอาญาเท่านั้น แต่อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยสามารถยื่นฟ้องดำเนินคดีกับพยานที่ให้การเท็จทั้ง 2 คนได้ หากศาลพิจารณาว่าพยานทั้งสองให้การเท็จจริงก็สามารถยื่นฟ้องนายสุเทพว่าจ้างวานหรืออยู่เบื้องหลังเป็นคดีอาญาต่อไปได้ และสามารถยื่นเรื่องไปยัง กกต.เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ ฐานใส่ร้ายพรรคไทยรักไทยได้

อีกด้านหนึ่งที่รัฐสภา คณะกรรมาธิ การการกฎหมายฯสภาผู้แทนราษฎร มีมติให้เรียกพล.อ.พัลลภ นายชวการ และนายสุขสันต์ 2 พยานจากคดียุบพรรคไทยรักไทยเข้าชี้แจงในวันที่ 25 พ.ย. เพื่อหาข้อเท็จจริง กรณีที่ออกมาระบุว่าถูกว่าจ้างให้เป็นพยานเท็จในคดียุบพรรคไทยรักไทย หากพบว่าสิ่งที่บุคคลทั้งสองพูดเป็นเรื่องจริง ก็จะนำไปสู่การให้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ร้องขอคืน สิทธิทางการเมือง แต่ในเรื่องของการให้ล้มคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สั่งยุบพรรคไทยรักไทยตามกฎหมายคงทำไม่ได้ และเมื่อมีการคืนสิทธิให้ทั้ง 111 คนแล้ว ก็จะนำไปสู่การร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

* หึ่ง "จักรภพ" โผล่แถลงข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ย. ได้รับแจ้งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ ระบุข้อความนัดหมายสื่อมวลชนว่า นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำคนเสื้อแดงที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี จะแถลงข่าวส่งอาวุธเขมรเข้าไทย ในวันที่ 19 พ.ย. เวลา 14.30 น. ที่ชั้น 5 ห้องเรดช็อป อิมพีเรียล ลาดพร้าว อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นผู้แจ้งกำหนดการดังกล่าวแต่ปรากฏว่าได้ปิด เครื่องไม่สามารถติดต่อได้

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนไม่ทราบความเคลื่อนไหวของนายจักรภพว่าได้เข้ามาประเทศไทยแล้วหรือยัง เพราะหลังจากที่นายจักรภพประกาศแยกทางไปตั้งกลุ่มแดงสยามก็ไม่ได้ติดต่อประสานงานกันอีกเลย ส่วนการแถลงข่าวของนายจักรภพก็เป็นเรื่องของเขา พวกตนก็คือ นปช.โดยหลังจากการประชุมในวันที่ 19 พ.ย. แกนนำ นปช.จะแถลงข่าวในเวลา 13.00 น. ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าวเช่นเดียวกัน

* ซินแสจับยามเปลี่ยนนายกฯ

วันเดียวกันที่สถาบันค้นคว้าวิชาการและฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทย อาคาร สเตททาวเวอร์ นายมาศ เคหาสน์ธรรม ซินแสชื่อดังของไทย เปิดทำนายดวงประเทศไทยในปี 2553 ว่า เข้าสู่ปีเสือ เปรียบเสมือนปีแห่งเสือเจ็บ เสมือนมีมีดปักอยู่บนหลังเสือ ทำให้การเมืองจะเกิดการเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาลในกลางปีช่วงเดือน มิ.ย. จะเป็นนักรบถืออาวุธมีแนวโน้ม 80% จะเป็นทหาร ขณะที่เหตุการณ์บ้านเมืองมีโอกาสเกิดเหตุรุนแรงช่วงเดือน ก.พ., มิ.ย. และ ต.ค.

ซินแสชื่อดังกล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นมาจากผู้นำของรัฐบาลในปัจจุบันคือ นายอภิสิทธิ์ และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำคนสำคัญของรัฐบาล เป็นธาตุไม้เหมือนกัน แต่จะถูกธาตุทองพิฆาตธาตุ ไม้ให้ล้มลง ขณะที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ในปี 53 พลังฟ้ากลายเป็นเลวร้ายสุด 10 ปี และวิบัติสุดในรอบ 12 ปี ทำให้ไม่ได้เป็นนายกฯและรูปทรงตัวแอลผิดหลักฮวงจุ้ย ดังนั้นในปีหน้าแกนนำคนสำคัญของรัฐบาลจะถูกพลังฟ้าสยบ

* คนไกลดวงเริ่มดีขึ้น

ซินแสมาศกล่าวต่อว่า ส่วนคนที่อยู่แดนไกลจะเคลื่อนไหวมาอยู่ใกล้กับประเทศไทย และมีดวงที่ดีขึ้น จึงมีโอกาสที่ในช่วง 3 เดือนนี้ ก.พ., มิ.ย. และ ต.ค.จะเกิดเหตุรุนแรงในประเทศ ทำให้รัฐบาลไม่สามารถ บริหารประเทศได้ต่อไป โดยเฉพาะเดือน ต.ค.ที่จะปั่นป่วนรุนแรงมากที่สุด

ขณะที่ฮวงจุ้ยที่ทำงานของรัฐบาล คือ ทำเนียบฯ ซึ่งเป็นรูปตัวยูเปรียบเสมือนคนถูกมัดมือไขว้หลังไว้ ด้านหลังเว้าแหว่ง ถือว่าเลวร้ายมากที่สุดในบรรดาหน่วยงาน ราชการทั้งหมด ทางแก้ผู้นำรัฐบาลไม่ควรมาใช้ที่ทำงานแห่งนี้ แต่ควรใช้เป็นที่ต้อนรับแขกคนสำคัญของประเทศเท่านั้น และใช้บ้านพิษณุโลกเป็นสถานที่ทำงานแทนเพราะถือว่ามีฮวงจุ้ยที่ดี.