ดีก็เที่ยว ป่วยก็นอน! เชียงใหม่คาดเที่ยวเพิ่ม 20% อีกมุมเร่งเปิดไอซียูสนามรับผู้ป่วยวิกฤต
วุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมผู้แทนหน่วยงานพันธมิตรร่วมกันแถลงการจัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม จากความร่วมมือของหน่วยงานท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย
สวนสัตว์เชียงใหม่, เชียงใหม่ ซู อควาเรียม, อุทยานหลวงราชพฤกษ์, และสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้การท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ที่ผ่านมาซบเซาลงไปอย่างมาก
การจัดแพ็กเกจโปรโมชันนี้จะมีให้นักท่องเที่ยวได้เลือกอยู่ 2 แพ็กเกจ คือ 3 ซู 1 สวน จวนแอ่วเจียงใหม่ เป็นแพ็กเกจ รวมที่พักพร้อมรถนำเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ประกอบด้วย สวนสัตว์เชียงใหม่ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม อุทยานหลวงราชพฤกษ์ และ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
พร้อมบริการอาหารจากร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่จากร้านผาลาดตะวันรอน และ ร้านกู๊ดวิววิลเลจ ราคาสำหรับผู้ใหญ่ (ไทย) 1,470.-บาท/ท่าน ราคาสำหรับเด็ก (ไทย) 1,265.-บาท/ท่าน ราคาสำหรับผู้ใหญ่ (ต่างชาติ) 1,960.-บาท/ท่าน ราคาสำหรับเด็ก (ต่างชาติ) 1,590.-บาท/ท่าน (เด็ก ส่วนสูง 101 - 140 เซนติเมตร)
อีกแพ็กเกจ คือ ซู 1 สวน จวนแอ่วเจียงใหม่ (เที่ยวคนเดียว) เป็นแพ็กเกจสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากท่องเที่ยวด้วยตนเองซึ่งแพ็กเกจนี้จะรวมบัตรเข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ เชียงใหม่ ซู อควาเรียม อุทยานหลวงราชพฤกษ์ และ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี (พร้อมที่พักและรถเช่าราคาพิเศษ)
ราคาสำหรับผู้ใหญ่ (ไทย) ราคา 470.-บาท/ท่าน ราคาสำหรับเด็ก (ไทย) 265.- บาท/ท่าน ราคาสำหรับผู้ใหญ่ (ต่างชาติ) ราคา 960.-บาท/ท่าน ราคาสำหรับเด็ก (ต่างชาติ) 590.- บาท/ท่าน (เด็ก ส่วนสูง 101 – 140 เซนติเมตร) ซึ่งสามารถติดต่อจองได้ทั้ง 4 หน่วยงานพันธมิตร
ด้าน ศักดิ์สกุล ศุภกฤตอนันต์ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ คาดการณ์ว่าในช่วงของเทศกาลลอยกระทงหรือยี่เป็งเชียงใหม่ จะมีนักท่องเที่ยวไทยสูงกว่าชาวต่างชาติ โดยนักท่องเที่ยวไทยจะเพิ่มขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงปกติของการแพร่ระบาดช่วงโควิด 19 เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเชียงใหม่ในเวลานี้จากไฟลท์แรกบินตรง 83 คน เมื่อ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้มีมาเพิ่มเป็น 210 คน จากเกาหลีใต้ทั้งหมด ขณะที่ยอดจองห้องพักเพิ่มขึ้นจากปกติ 30 เป็น 40 % คาดว่าช่วงการจัดเทศกาลยี่เป็งยอดจองห้องพักจะเพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะที่พักอำเภอรอบนอก จะมียอดจองมากกว่า 90 % ต่อเนื่องไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ เชื่อว่าเป็นเรื่องกระแสที่พักที่กระจายออกไปเพราะนักท่องเที่ยวต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ และอยู่ห่างจากการสัมผัสผู้คน เพราะเกรงการติดเชื้อจากโควิด-19
อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลยี่เป็ง นักท่องเที่ยวก็ยังต้องเข้ามาท่องเที่ยวในเมือง เนื่องจากปีนี้ยี่เป็งจัดใหญ่ แม้ไม่มีขบวนแห่ แต่ก็มีการจัดตกแต่งเมืองสวยงามและเน้นการท่องเที่ยวแบบวิถีใหม่ นิวนอร์มอล ขณะนี้การยกเลิกห้องพักยังไม่มี เชียงใหม่โชคดีเรื่องวัคซีนได้รับการจัดสรรครบ 100% และ ฉีดไปกว่า 1.3 ล้านคนแล้ว เชื่อจากนี้ไปผู้ติดเชื้อจะค่อยๆลดลง การท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ ก็จะกลับมาเร็วกว่าปกติ
อีกด้าน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตั้งเตียงและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อเปิดให้เป็นหอผู้ป่วยภาวะวิกฤต หรือ ไอซียูสนาม ภายในบริเวณฮอลล์ 3 ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ ขณะที่ทีมแพทย์และพยาบาลประชุมเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงาน ก่อนที่จะเริ่มเปิดรับผู้ป่วยตั้งแต่วันนี้ (16 พ.ย.) เป็นต้นไป
ไอซียูสนามเปิดขึ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ใน จ.เชียงใหม่ ยังคงพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้เตียงผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง (สีส้ม,สีแดง) ไม่เพียงพอ ในแต่ละวันมีผู้ป่วยระดับอาการรุนแรงและวิกฤตที่ต้องการเตียงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเตียงเดิมสามารถรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้มีประมาณ 100 เตียงซึ่งไม่เพียงพอกับปริมาณผู้ป่วยที่ยังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน
เพจโรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยข้อมูลว่า ไอซียูสนามที่เปิดขึ้นมีขนาด 50 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงเป็นหลัก โดยมอบหมายให้โรงพยาบาลนครพิงค์ เป็นผู้ดำเนินการ
โดยตลอดทั้งวันนี้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการติดตั้งระบบจ่ายออกซิเจน , ระบบไอที ,ระบบสื่อสารกล้องวงจรปิดและจัดเตรียมเครื่องมือ , อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ
ส่วนของบุคลากรที่ปฏิบัติงานจะเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลนครพิงค์ร่วมกับทีมบุคลากรทางการแพทย์จากหลายจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 1 (ภาคเหนือตอนบน)
ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ระบุ ตัวเลขผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาล ศูนย์แยกกักชุมชน และ ระบบโฮมไอโซเลชั่น รวมทั้งหมด 4,963 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการรุนแรงหรือสีแดงมีอยู่ 92 ราย ขณะที่ผู้ป่วยปานกลางหรือสีเหลืองมีอยู่ 976 ราย