เรื่องจริงที่รอการพิสูจน์จาก นาธาน โอร์มาน
ก่อนหน้านี้ บันเทิง คม ชัด ลึก เคยรวบรวมคู่กรณีของ นาธาน โอร์มาน มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น "ดีเจเจเจ" จามจุรี แคสเชอร์ และ นพวรรณ ทองเจริญ หุ้นส่วนร้านกาแฟ Jamaree Yak Cafe Gallery & Bar ที่ออกมาแฉว่าถูก นาธาน ยักยอกทรัพย์ของร้าน เป็นจำนวนเงิน 72,000 บาท รวมถึงยังมี สมาน สุขเสริม แม่บ้านของนาธาน ที่เข้าแจ้งความดำเนินคดี ที่สน.คลองตัน กล่าวหาอดีตนายจ้างยืมเงินไปแล้วไม่คืนกว่า 3 แสนบาท
นอกจากนี้ยังมี จารุวรรณ วัฒนาเดช, รัตติกร โลหะชลิตานนท์, นิธิวรรณ รัตนธิกุล และ สรัญญา สิทธิธีรรัตน์ ที่ซื้อทัวร์ของนาธานที่อ้างว่าจะพาไปเนปาล แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีวี่แวว รวมถึง อรทัย ยิ้มละม้าย อดีตพนักงานบัญชีโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ก็เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตนักร้องหนุ่มที่เคยบอกว่าจะสามารถฝากงานเข้าการท่องเที่ยวประเทศไทย (ททท.) ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นอย่างที่รับปากไว้ ทั้งที่จ่ายเงินค่าดำเนินการไปแล้ว
จนถึงวันนี้ คู่กรณีของ นาธาน ยังคงเดินหน้ากันออกมาแฉอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ฉลอง จันทร์นาค คุณยายของน้องอ้อม เด็กดักแด้ ที่ออกมาแฉว่าอดีตนักร้องคนดัง อาศัยใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจที่น้องอ้อมมีให้ อ้างว่าเพราะเงินบริจาคเกี่ยวกับสึนามิมีปัญหา จึงขอยืมเงินหลักแสน
"เขายืมไปตอนปี 2548 เฉพาะที่เอากับตาไปแปดหมื่น แล้วเป็นเงินจากการเล่นแชร์ที่ตากับยายสะสมเอาไว้ ตอนแรกเขายืมของอ้อม แต่ยายกลัวของอ้อมหมดก็เลยให้มาเอาของเรา ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนกับอ้อม ยายก็ไห้ไป แล้วตอนหลัง เขาก็มาหลอกอ้อมอีก บัญชีนั้นมีอยู่สองหมื่นกว่าบาท เป็นเงินที่อ้อมเขียนหนังสือกับรายการเจาะใจ แล้วพี่แมว (โปรดิวเซอร์รายการเจาะใจ) ก็ให้ยายมาสองหมื่นกว่าบาท เราก็เอาเงินนั้นเข้าบัญชีของธนาคารกรุงศรีฯ เป็นชื่ออ้อม แล้วอ้อมก็มาหลอกยายว่าบัตรเอทีเอ็มเขาหาย จนเขามาบอกทีหลังว่าให้บัตรนาธานไปกดเอง รวมๆ แล้วก็แสนกว่า"
ยายน้องอ้อมยังกล่าวต่ออย่างเสียใจว่า นอกจากเงินที่ยังไม่ได้ใช้คืนแล้ว งานศพของน้องอ้อม ก็ยังไร้วี่แววของอดีตนักร้องดัง ซึ่งภายหลัง นาธาน ได้ ออกมายอมรับว่า เขาเคยยืมเงินของน้องอ้อมจริง แต่ไม่เคยเอาบัตรเอทีเอ็มของน้องอ้อมมากด ส่วนที่ไม่ได้เดินทางมางานศพน้องอ้อม เพราะติดถ่ายหนังอยู่ที่ต่างประเทศ โดยเรื่องนี้ "น้องแอ้ม" ธีราภร ฤทธิโชติ น้องสาวของอ้อม ก็ได้มายืนยันว่านาธานไม่ได้หลอก แต่น้องอ้อมเต็มใจให้ยืมเงินเองด้วยความสงสาร ซึ่งได้ทยอยใช้เงินคืนแล้ว แม้จะยังไม่หมดก็ตาม
อีกรายที่ออกมายอมรับว่าเคยเป็นเหยื่อของนาธานเหมือนกัน คือ "น้องลูกปัด" อมาตยา ไชยะคำ รองมิสอัลคาซ่าร์ ปี 2005 ที่เล่าว่านาธานได้มารู้จักและสนิทสนมกับครอบครัวเธอ กระทั่งวันหนึ่งนาธานได้เอ่ยปากว่า ทางบริษัท เจ เอส แอล จะจัดทัวร์ไปเคนยา คุณแม่ของน้องลูกปัดสนใจจะไปร่วมทริปดังกล่าวด้วย จึงได้โอนเงินให้นาธานไป 3 แสนบาท แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไปทัวร์ใดๆ ทั้งสิ้น กระทั่งมีเรื่องราวต่างๆ ตามมาแฉนาธานมากมาย เลยคิดว่าครอบครัวเธออาจจะเป็นอีกหนึ่งรายที่ตกเป็นเหยื่อ แต่ทั้งนี้ครอบครัวของเธอก็ไม่ได้ติดใจจะเอาความ แต่ตัวเธอรู้สึกว่าควรจะต้องพูด เพื่อให้คนได้รู้ความจริง
ก่อนหน้านี้ มีคนพยายามจะจับผิดนาธานหลายรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่นาธานบอกว่าได้ไปเล่นหนังไตรภาคฟอร์มยักษ์ของ ฮอลลีวู้ด เรื่อง The Prince Of Red Shoe กำกับโดย วูล์ฟกัง ปีเตอร์สัน มีดารานำ บรูซ วิลลิส คริสติน่า ริชชี และจอนนี่ เด็ปป์ รับค่าตัวประมาณ 70 ล้านบาท แต่เมื่อชาวเน็ตเว็บไซต์พันทิป ดอท คอม พยายามหาข้อมูลใน imdb.com กลับไม่พบแต่อย่างใด รวมถึงรูปใน hi5 ของนาธาน ที่ อ้างว่าเป็นกองถ่าย ก็ถูกจับได้ว่าเป็นรูปจากเทศกาล Burning Man 2005 แต่นาธานอ้างว่าแฟนคลับทำให้ เขาไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้เมื่อสื่อขอให้โชว์พาสปอร์ตเป็นหลักฐานยืนยันว่าเดินทางไปถ่ายทำหนังจริง แต่นาธานก็โชว์อย่างไม่เต็มใจ อ้างว่าเขาไม่ใช่นักโทษ และทางกองถ่ายก็อยากให้เป็นความลับ พร้อมบอกว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร อนาคตจะได้เห็นแน่
ในเรื่องที่นาธานยืนยันว่าเขาเป็นคนไทย มีเชื้อสายและเกิดที่เนปาลนั้น ก็มีผู้สงสัย เนื่องจากในทะเบียนบ้านของนาธานระบุว่า นาธานมีชื่อจริงว่า ธัญญวัฒน์ หยุ่นตระกูล เกิด 14 พฤษภาคม 2519 อายุ 33 ปี ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น นธัญ โอมานันท์ คุณพ่อชื่อธัญญา คุณแม่ชื่ออุทัยวรรณ มีสัญชาติไทย แถมเพื่อนเก่ายังออกมาบอกว่านาธานเรียนประถมที่โรงเรียนดรุณศึกษา เรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และเป็นคนไทย ไม่ใช่ลูกครึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีข้อความเหลือเชื่อที่นาธานเขียนลงในพ็อกเก็ตบุ๊กของเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ว่าเขาเกิดที่เมืองปาตัน ประเทศเนปาล ตอนเด็กๆ ต้องเดินผ่านป่าหิมพานต์ทุกวัน ไปเจอมัคนารีผล แต่ด้วยความที่เป็นเด็กก็เลยเอาก้อนหินไปปา มัคนารีผลก็เลยตกใจร้องเสียงลั่นป่า
โดยเรื่องราวต่างๆ นี้ แม่ของ "ปุ๊กกี้" ปริศนา พรายแสง ได้ออกมาสาวไส้แบบหมดเปลือก ว่าครอบครัวของเธอ ถูกนาธานหลอกเอาเงินไปร่วมล้านแล้ว โดยเผยว่ารู้จักกับนาธานเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพราะตอนนั้น จะเชิญศิลปินไปทำกิจกรรมที่ออสเตรเลีย ตอนแรกอยากได้ "บีม" กวี ตันจรารักษ์ แต่บีมติดเรียน "ชิ" อนุชา ลังคประเสริฐ อดีตผู้จัดการส่วนตัวของนาธาน เลย แนะนำนาธานให้ไปทำกิจกรรมในครั้งนั้น นาธานได้มารู้จักกับ ตู่ เพื่อนของเธอที่เป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่ที่ซิดนีย์ ซึ่งนาธานไม่มีตังค์เลย มีหนี้สินเพียบ ด้วยความสงสาร ตู่จึงได้ช่วยเหลือนาธานทั้งจ่ายค่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ รวมถึงยังยืนยันว่า นาธานไม่ใช่ลูกครึ่งเนปาลแน่นอน เพราะตัวนาธานไม่เคยไปเนปาล และนาธานเคยบอกว่าอยากจะพานักข่าวไปเนปาล
"นาธานเป็นคนพูดอะไรไม่ค่อยจะตรง อย่างบอกว่าย่าเขาเป็นตุรกี แล้วก็บอกว่ายายเป็นคนพาหนีมา แล้วก็เป็นคนจัดการเรื่องวีซ่าให้ จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เขาออกจากประเทศไทยครั้งแรกก็คือมาที่ซิดนีย์นั่นแหละ แล้วมาคุยโม้บอกว่าพูดได้ 5 ภาษา ซึ่งพวกเราพูดกันได้ทั้งอาหรับ ทั้งฝรั่งเศส ก็เลยรู้ว่าไอ้นาธานมันโกหก อย่างตู่เขาอยู่เนปาลมาเป็นปีๆ เขารู้ พอได้อ่านหนังสือของนาธานเขาก็ขำ เดินผ่านทะเลทราย บอกว่าไปเฝ้าราชินีมันจริงซะที่ไหนล่ะ เรื่องจริงควีนโดนฆ่าตายไปหมดแล้ว มีที่ไหนป่าหิมพานต์ ตู่บอกว่าเด็กที่เขาเลี้ยงอยู่บนภูเขาต้องเดินตั้ง 2 วัน แล้วต้องไปหลับตรงกลางทางกลัวเสือจะมาคาบ นาธานก็เอาไปแต่งเป็นเรื่องเป็นราวของตัวเอง"
แม่ของปุ๊กกี้ยังเล่าต่อว่า มารู้ความจริงจากเจ้าของร้านตัดผมที่โรงแรมดุสิตธานี เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา ว่าจริงๆ นาธานอยู่กับยาย เรียนที่โรงเรียนทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กระทั่งนาธานหนีออกจากบ้าน จับพลัดจับผลูได้มาเป็นนักร้องอยู่อาร์เอส
เรื่องจริงที่รอการพิสูจน์ อาจไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่เรื่องจริงเป็นอย่างไร คนที่รู้อยู่แก่ใจมีเพียง "นาธาน" คนเดียวเท่านั้น