ระทึกอ่าวไทย! เรือประมงเวียดนามลอบจับปลิงทะเล สุดห้าวขับพุ่งชนเรือทหารไทย
ระทึกกลางอ่าวไทย! เรือประมงเวียดนามลุกล้ำน่านน้ำไทยเข้ามาจับปลิงทะเล สุดห้าวขับพุ่งชนเรือตรวจการณ์ของกองทัพเรือในขณะเข้าจับกุมเพื่อจะหลบหนี
วานนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ทัพเรือภาคที่ 2 โดย พลเรือตรี พิจิตต ศรีรุ่งเรือง รอง ผบ.ทรภ.2 พลเรือตรี สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา รอง ผอ.ศรชล.ภ.2 นาวาเอก วศากร สุนทรนันท รอง ผอ.ศรชล.จ.สุราษฎร์ธานี เรือเอก กีรติ ภาณุพิจารย์ ผบ.ร.ล.ท้ายเหมือง เรือเอก กฤศฏา ศรีปริยัติ ผบ.เรือ ต.113 ร้อยตำรวจตรี สุวัช พัวพันธ์ รองสารวัตรตำรวจน้ำสมุย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงเวียดนาม จำนวน 2 ลำ พร้อมจับกุมลูกเรือประมงสัญชาติเวียดนาน จำนวน 5 คน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 64 ทัพเรือภาคที่ 2 ได้รับการประสานจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ว่า พบกลุ่มเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในอาณาเขตของประเทศไทย จำนวนประมาณ 40 ลำ
พลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 จึงสั่งการให้เรือ ต.113 นำเรือออกลาดตระเวน ตรวจสอบกลุ่มเรือประมงต่างชาติดังกล่าว โดยในวันเดียวกัน เรือ ต.113 ได้พบกลุ่มเรือประมงต้องสงสัยจำนวน 4 ลำ จึงได้นำเรือเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จึงแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น และจับกุมเรือประมงดังกล่าวตามขั้นตอน
ในระหว่างนั้นเองมีเรือประมงเวียดนามลำหนึ่งได้ขับเรือพุ่งเข้ามาทางด้านกราบขวาเรือของ เรือ ต.113 ก่อนพุ่งเข้าชนเรือ ต.113 จนทำให้เรือ ต.113 ได้รับความเสียหายเล็กน้อย จากนั้นเรือประมงกลุ่มดังกล่าวได้ขับเรือหลบหนีไป ในระหว่างที่เรือ ต.113 ทำการตรวจสอบความเสียหายของเรือ
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้จัดตั้งหมู่เรือเฉพาะกิจ ประกอบด้วย ร.ล.ตาปี ร.ล.นราธิวาส ร.ล.แกลง ร.ล.ท้ายเหมือง และเรือ ต.113 พร้อมเครื่องบินลาดตระเวน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ จำนวน 6 นาย ออกปฏิบัติการลาดตระเวนค้นหาจับกุมเรือประมงต่างชาติ ที่ลุกล้ำเข้ามาทำการประมงในทะเลของไทยที่หลบหนีการจับกุมไป
จนในวันที่ 16 พ.ย. 64 ร.ล.ท้ายเหมือง และ ร.ล.แกลง ได้ตรวจพบเรือประมงเวียดนาม 1 ลำ พร้อมลูกเรือสัญชาติเวียดนาม จำนวน 5 คน จึงเข้าตรวจค้นและจับกุม ขณะเดียวกัน ร.ล.นราธิวาส และเรือ ต.113 ก็ตรวจพบเรือประมงเวียดนามอีก 1 ลำ แต่ไม่พบลูกเรือในเรือลำดังกล่าว แต่พบร่องรอยการชนที่บริเวณหัวเรือ จึงคาดว่าจะเป็นเรือประมงเวียดนามลำเดียวกันที่ขับพุ่งชนเรือ ต.113 แล้วหลบหนี ก่อนที่ลูกเรือประมงลำดังกล่าวจะหลบหนีไปกับเรือประมงเวียดนามลำอื่นที่มารับไป โดยทิ้งเรือลำดังกล่าวที่ได้รับความเสียหายไว้
เจ้าหน้าที่ทหารเรือจึงควบคุมตัวลูกเรือสัญชาติเวียดนาม และเรือประมง จำนวน 2 ลำ เข้ามายังท่าเทียบเรือ สถานีเรือสมุย ฐานทัพเรือภาค 2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พลเรือตรี พิจิตต ศรีรุ่งเรือง รอง ผบ.ทรภ.2 เปิดเผยว่า จากการที่เรือประมงเวียดนามลำดังกล่าว พุ่งชนเรือทำความเสียหายต่อเรือของกองทัพเรือนั้น ถึอเป็นการกระทำที่รุนแรง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมากองทัพเรือได้ทำการจับกุมอย่างละมุนละม่อมมาตลอด โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเป็นที่ตั้ง โดยหลังจากนี้ทัพเรือภาคที่ 2 จะต้องเพิ่มความเข้มงวดตามมาตรการในการจับกุมให้มากขึ้น และขอให้พี่น้องประชาชนรวมถึงชาวประมงไทยให้มั่นใจว่าในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 2 เราจะรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้เต็มที่
ซึ่งในการตรวจพบเรือประมงเวียดนามที่เข้ามาทำการประมงในในประเทศไทยในขณะนี้พบว่า จะเป็นการเข้ามาลักลอบจับปลิงทะเล ซึ่งจากการตรวจสอบในเรือพบปลิงทะเลจำนวนหนึ่งที่เรือประมงเวียดนามจับขึ้นมา โดยใช้อุปกรณ์เครื่องมือในการคราดปลิงทะเลที่อยู่ใต้ท้องทะเล ซึ่งเป็นการทำให้ทรัพยากรทางทะเลได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
ทางด้าน พลเรือตรี สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา รอง ผอ.ศรชล.ภ.2 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากกลุ่มเรือประมงของไทยว่ามีเรือประมงเวียดนามลักลอบเข้ามาทำการประมงในพื้นที่ของประเทศไทยมากถึง 40 ลำ แต่เมื่อออกไปตรวจสอบก็พบเรือประมงเวียดนามประมาณ 7 ลำ แต่เนื่องจากกลุ่มเรือประมงเวียดนามกลุ่มนี้อาจจะมีสายข่าวที่คอยแจ้งเตือนเมื่อเจ้าหน้าที่จะออกดำเนินการจับกุม รวมถึงเรือประมงเวียดนามที่ลักลอบเข้ามาก็ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่มีศักยภาพสามารถตรวจจับเรือของเจ้าหน้าที่ของไทยได้เมื่ออยู่ในระยะใกล้ก่อนเข้าจับกุม จึงทำให้เรือประมงเวียดนามกลุ่มนี้มีเวลาในการหลบหนี
อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 (ศรชล.ภ.2) จะเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มสายข่าวซึ่งเป็นกลุ่มชาวประมงของไทยในการแจ้งข้อมูล เพื่อติดตามจับกุมเรือประมงที่รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในประเทศ เพื่อปกป้องและรักษาทรัพยากรทางทะเลของประเทศให้ได้อย่างเต็มความสามารถ
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ