เปิดใจเจ้าของ "ไม้ไฮบริด 20 ล้าน" ธุรกิจพังเพราะโควิด พลิกชีวิตด้วยไม้ด่าง

เปิดใจเจ้าของ "ไม้ไฮบริด 20 ล้าน" ธุรกิจพังเพราะโควิด พลิกชีวิตด้วยไม้ด่าง

เปิดใจเจ้าของ "ไม้ไฮบริด 20 ล้าน" ธุรกิจพังเพราะโควิด พลิกชีวิตด้วยไม้ด่าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดใจเจ้าของ "ไม้ไฮบริด 20 ล้าน" ธุรกิจออร์แกไนซ์พังเพราะโควิด ก่อนมาพลิกชีวิตด้วยการเข้าวงการไม้ด่าง

กลายเป็นเรื่องฮือฮาสนั่นโซเชียลอีกครั้ง หลังมีการพูดคุยถึงต้นบอนสี ตัวใหม่ในตลาดต้นไม้กลุ่มไม้สะสม ไม้ด่าง ที่มีราคาแรงพุ่งไปถึงระดับราคา ต้นละ 20 ล้านบาทแล้ว นั้นก็คือ ต้นโคโลคาเซีย ไซล็อค (Colocasia Psylocke) อยู่ที่ สวนมีพิษ-ณุโลก หมู่ 2 บ้านตูม ตำบลปากโทก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพูดคุยกับเจ้าของถึงความเป็นมากับ นายเพ็ชรบัว ยอดไพบูลย์ อายุ 47 ปี เจ้าของ สวนมีพิษ-ณุโลก ที่ออกมายืนยันว่า ราคาต้นแม่ต้นละ 20 ล้านบาท นั้นเป็นเรื่องจริง ต้นที่มีอยู่เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว หลังจากที่ นายวุฒิ ศรีเจริญ เจ้าของสวน บ้านลุงหมี ชลบุรี เป็นผู้ผสมสายพันธุ์ จากการผสมเกษร ตัวผู้คือ แบล็คโครอล (Black coral) และตัวเมีย ไวท์ลาวา (White lava) ที่มีลักษณะใบสีม่วงอมดำมันเงา ตัดกับสีชมพูแดงตรงส่วนกลาง และกระดูกของใบ ซึ่งมีความสวยงามมาก ประทับใจผู้ที่พบเห็นทุกคน ซึ่งหน่อขายได้ในราคาหน่อละ 1 ถึง 1.5 ล้าน บาท

นายเพ็ชรบัว บอกเล่าความเป็นมาก่อนเข้าสู่วงการ กลุ่มไม้สะสม ไม้ด่าง ว่าตนเองเคยทำอาชีพรับเหมาและออร์แกไนซ์ และมีแนวความคิดอยากจะมีสวนเป็นของตนเอง เอาไว้พักผ่อนหลังทำงาน โดยเน้นที่จะเล่นไม้ใบไม้สะสม เพราะตนเองเคยไปเดินเที่ยวสวนหลวงแล้วรู้สึกประทับใจมีความชอบ โดยเริ่มจากไม้ราคาหลักร้อยหลักพันก่อน ต่อมาก็เริ่มขายบ้างแต่เน้นที่จะขยายพันธุ์มากกว่า ต่อมาตนเองเริ่มเหนื่อยกับการทำงานรับเหมาก่อสร้าง จนเลิกแล้วเหลือแต่การรับทำออร์แกไนซ์ และมาโดยพิษโควิด-19 ทำให้ธุรกิจออร์แกไนซ์พังพินาศ จึงมาขายไม้อย่างจริงจัง ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ที่ดีมาก เพราะวงการไม้ในประเทศไทยมีมานานแล้ว และราคาไม้ก็มีการขยับตัวขึ้นมาโดยตลอด ไม่ใช่เพราะโควิด-19 เพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นคนในวงการไม้ จะรู้ว่า การทำไม้ด่าง ไม้ใบ ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ได้ทำกำไรรวดเร็วอย่างที่หลายคนคิด ดังนั้นการเลี้ยงไม้เพราะรัก แล้วนำมาประกอบอาชีพ จึงจะรู้ว่าจะสามารถนำรายได้มาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างดี

สวนมีพิษ-ณุโลก เปิดจำหน่าย กลุ่มไม้สะสม ไม้ด่าง คือไม้หายาก ไม้นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งด่างและไม่ด่าง ซึ่งมีราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักล้าน โดยมีเหตุผลมาจากนายเพ็ชรบัว ชื่นชอบลวดลายของใบไม้ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง ขนาดใบ ลวดลายของเส้นใบ รวมทั้งสีใบ เพราะมีความรู้สึกว่าไม้ใบสวยได้ตลอดปี แต่ไม้ดอกสวยได้เฉพาะตามฤดูกาล

สวนมีพิษ-ณุโลก มีพันธุ์ไม้หายากที่เป็นของสวนคือ มอนสเตอร่า ทีมีรูเยอะมากกว่าปกติ ที่มีขายเฉพาะที่นี่ นอกจากนั้นก็จะมีไม้หายากเหมือนหลายๆ สวน ส่วนไม้ที่ราคาสูงสุด Top 5 ของ สวนมีพิษ-ณุโลก อันดับ 1 คือ โคโลคาเซีย ไซล็อค หน่อละล้านกว่าบาท 2. ฟิโลเดนดรอน ก้านส้มด่าง ต้นละ 7 แสน ถึง 1 ล้านบาท ใบละ 250,000 บาท 3.มอนสเตอร่า ด่าง ลายทหาร ต้นละ 7 แสน 5 หมื่นบาท 4.ต้นอิพิ ด่างมิ้น ต้นละ 750,000 บาท 5. ฟิโลเดนดรอน โจบีอาย 2 ถึง3 แสนบาท

นายเพ็ชรบัว เชื่อว่าตนไม้ในสวนของเขาจะไม่เหมือน ต้นไม้ในตลาดต้นไม้ทั่วไป เพราะเป็นไม้จากต่างประเทศ มีสีให้เลือกเยอะ และเป็นไม้ที่นักสะสมทั่วโลกนิยมเล่นกัน ส่วนคาดการณ์วงการไม้สะสม ไม้ด่าง ในอนาคต เชื่อว่า วงการที่มีอยู่มาหลายสิบปีแล้ว จะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงดาราด้วย เพราะมีคนเข้าวงการมาใหม่ และมีความต้องการไม้ทุกตัว ฉะนั้นการทำไม้ขาย ไม่ได้ขายเฉพาะคนในประเทศ สามารถส่งขายได้ทั่วโลก เพราะประเทศไทยที่อยู่ในทวีปเอเชียมีความเหมาะสมในเรื่องของสิ่งแวดล้อม สามารถเลี้ยงไม้ได้เกือบทุกชนิดทั่วโลก และขยายพันธุ์ได้ดี

ส่วน โคโลคาเซีย ไซล็อค ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในราคา 1.5 ล้านบาท ก็เนื่องมาจาก ใน 1 หน่อได้มีหน่อแตกเพิ่มให้แล้ว เพราะฉะนั้น ลูกค้าที่ได้ไปและใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน ก็จะสามารถขายต่อได้ ซึ่งกว่าจะได้ โคโลคาเซีย ไซล็อค ที่สวยเด่นแบบนี้ ในหนึ่งฟัก 100 เมล็ด อาจจะได้หรือไม่ได้เลยก็ได้ เพราะมีหลายสวนมีการผสมเหมือนกันแต่ก็จะได้ลักษณะที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นราคาจะเกิดจากความยาก ตั้งแต่การเริ่มต้นผสมเกสร ที่จะต้องทำให้ดอก 2 ต้น บานพร้อมกัน และนำมาผสมกัน ซึ่งจะต้องลุ้นว่าผลที่ได้ออกมาจะได้ต้นแบบไหน และอาจจะไม่ได้เหมือนกับจิตนาการที่อยากได้ จากนั้นก็ต้องมาเพาะเลี้ยงอย่างน้อย 3 ถึง 4  รุ่น เพื่อดูว่าลักษณะ ฟอร์มของต้นนิ่งหรือยัง มีการเปลี่ยนแปลง ให้สีเหมือนต้นแม่หรือไม่ จึงจะเริ่มมีการซื้อขายได้

ส่วนราคา 20 ล้านบาท มีที่มาจากการกำหนดราคาด้วยตนเอง เนื่องจากต้นที่มีอยู่มีหน่ออีก 7 หน่อ ที่จะสามารถนำไปตั้งแม่ต่อได้เลย หลังจากใช้เวลา 3 ถึง 4 เดือนก็สามารถตั้งแม่ได้เลยทั้ง 7 แม่ คำนวณขั้นต่ำ แม่ละ 3 หน่อ ขายหน่อละ 1 ล้านบาท ก็สามารถคืนทุน 20 ล้านบาทได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว 1 แม่ จะให้หน่อประมาณ 20 กว่าหน่อ เพราะนั้นการลงทุนระยะสั้นในช่วง 3ถึง4 เดือน และได้เงินทุนคืนพร้อมกำไร จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เฉพาะต้นราคา 20 ล้าน ใน 1 ปี จะสามารถขายได้ ประมาณ 100 หน่อ

นายเพ็ชรบัว เปิดเผยและเน้นย้ำว่า โคโลคาเซีย ไซล็อค นี้มี นายวุฒิ ศรีเจริญ เจ้าของสวน บ้านลุงหมี ชลบุรี เป็นผู้ผสมสายพันธุ์ และตนเองก็นำมาผสมต่อด้วย ซึ่งกว่าจะได้เห็นว่า ต้นแม่มีความสวยหรือไม่ต้องใช้ระยะเวลานาน 6 ถึง 10 เดือน ส่วนสาเหตุที่เลือก ผสมเกษร ตัวผู้คือแบล็คโครอล และตัวเมียไวท์ลาวา ก็เนื่องมาจากมีจินตนาการ มาจากไวท์ลาวา มีสีขาวอยู่ตรงกลางที่อาจจะกระจายได้ เป็นสีสว่าง จึงหลักการการระบายสี คิดว่าจะนำเอาสีของแบล็คโครอล มาใส่ และคาดหวังว่าจะมีสีดำมาใส่ ซึ่งบางต้นบางต้นไม่ขึ้นสีเลย โคโลคาเซีย ไซล็อค ที่ได้จึงเกิดจากความฟลุคหรือดวงล้วนๆ

ล่าสุดได้จัดส่งขายหน่อไปแล้ว 6-7 หน่อ และยังเหลือที่ไม่ได้ส่งอีกบางส่วน ตอนนี้มีคิวจัดส่งหน่อ 18 คิวแล้ว ส่วนต้นแม่ตอนนี้มีชาวเวียดนามติดต่อเข้ามาขอซื้อแล้ว แต่ต่อรองราคาอยู่ที่ 15 ล้านบาท ตนเองตัดสินใจแล้วยังไม่ขาย เพราะอยากส่งมอบให้กับลูกค้าในประเทศไทยให้ครบเสียก่อน  

ส่วนการดูแลต้น โคโลคาเซีย ไซล็อค นั้นเป็นพืชที่เลี้ยงไม่ยาก และไม่ง่าย ใช้วัสดุปลูกโปร่งเพื่อให้รากเดินดี รดน้ำวันละ 1 ถึง 2 รอบ และบางคนจะเอากะละมังมาแช่น้ำเพื่อให้ชื้น ชุ่ม แสงประมาณ 80 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์  เช่นจุดที่ตั้ง ต้นจะรับแสง 7 โมงเช้าถึงเที่ยง สำหรับมือใหม่ ที่ต้องการมาลงทุน หากมั่นใจในตลาดและมั่นใจในสินค้า นายเพ็ชรบัว เชื่อว่าวงการ ไม้สะสม ไม้ด่าง จะยังอยู่ได้อีกยาวนาน

ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้กับต้นไม้ราคาสูง นายเพ็ชรบัว ยอดไพบูลย์ เชื่อว่าสิ่งที่ดีที่สุด คือต้องป้องกันตนเอง เพราะจากการสังเกตกับคนที่ต้นไม้หาย จะเกิดเหตุช่วง ตี 2 ตี 3 ช่วงที่นอนหลับ หลายสวนจึงมีรั้ว กล้องวงจรปิด และแสงสว่าง เลี้ยงสุนัข หรือแม้แต่ใช้อาวุธ ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการทำกรง ประตูที่ล็อกได้

 

 

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ เปิดใจเจ้าของ "ไม้ไฮบริด 20 ล้าน" ธุรกิจพังเพราะโควิด พลิกชีวิตด้วยไม้ด่าง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook