ลูกสาวตำรวจวัย 16 เอาปืนพ่อยิงตัวเองดับ ก่อนลงมือทะเลาะแฟนหนุ่ม บอก "ลาก่อน"

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 20 พฤศจิกายน ร.ต.อ.ชัยชน เรืองเพชร รอง สว.(สอบสวน) สน.ดุสิต รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในแฟลตตำรวจ หลัง สน.ดุสิต แขวงดุสิต เขตดุสิต จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์เวร รพ.พระมงกุฎ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ที่แฟลต 5 ชั้น 3 ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย อายุประมาน 16 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอกด้านซ้ายหมดสติ นอนอยู่ข้างพี่ชายที่มีสติไม่สมประกอบ ในที่เกิดเหตุยังพบปืนลูกโม่ขนาด .38 ตกอยู่ข้างลำตัว ทีมแพทย์กู้ชีพวชิรพยาบาล จึงเร่งให้การช่วยเหลือทำ CPR แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ผู้เสียชีวิต คือ น.ส.ขวัญ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 บุตรสาวของเจ้าหน้าที่ยศ ร.ต.ท. ตำแหน่งธุรการของ สน.ดินแดง

จากสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงเวลาบ่าย 3 โมง ขณะทำธุระอยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ ได้เสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และได้ยินเสียงพ่อของผู้ตายร้องเรียกชื่อลูกสาว และเรียกให้คนช่วยเหลือ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สน.ดุสิต และเจ้าหน้าที่กู้ชีพวชิรพยาบาลมาที่เกิดเหตุ เข้าให้ความช่วยเหลือ

พยานเล่าต่อว่า ครอบครัวนี้มีกันอยู่ 4 คน พ่อ แม่ ลูกชายคนโต และผู้ตายเป็นลูกสาวคนเล็ก ซึ่งปกติจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เป็นคนไม่ค่อยพูด โดยเมื่อช่วงเช้าได้เห็นครอบครัวของผู้ตายออกไปฉีดวัคซีนกันทั้งครอบครัว และกลับเข้ามาในเวลา 11.00 น. จนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

รายงานข่าวแจ้ง ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย มีปัญหาส่วนตัวกับแฟนหนุ่ม โดยได้มีการพูดคุยเคลียร์ปัญหากันทางโทรศัพท์ ลักษณะเหมือนฝ่ายชายกำลังจะบอกเลิก แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จากนั้นฝ่ายผู้ตายจึงได้พูดกลับไปว่า "ถ้าอย่างงั้นก็ลาก่อน"

ด้าน ร.ต.อ.ชัยชน ร้อยเวรเจ้าของคดีเปิดเผยว่า ผู้ตายมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า ประกอบกับมีปัญหากับแฟนหนุ่ม จึงนำอาวุธปืนของบิดามาใช้ก่อเหตุ โดยยิงออกมา 2 นัด ก่อนก่อเหตุได้ทดลองใช้อาวุธปืนยิงก่อนหนึ่งนัด หลังจากนั้นจึงยิงอีกนัดเข้าที่กลางหน้าอกตัวเองเสียชีวิต

ด้านเพื่อนชายคนสนิท เปิดเผยหลังเดินทางมาที่เกิดเหตุ เผยว่าคบหาพูดคุยกับผู้ตายมาได้ร่วมปี ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก่อนเกิดเหตุไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรง เจอกันล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งระยะหลังทะเลาะกันบ่อย แต่เป็นเรื่องที่ไม่ได้รุนแรง มีการพูดคุยว่าจะห่างๆ กัน แต่ก็ไม่ได้จะเลิกกัน เพราะระยะหลังผู้ตายมักบ่นว่าเหนื่อย หลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่บ้าน และเรื่องความสัมพันธ์กับตนด้วย หลังๆ ทะเลาะกันบ่อย ห่างๆ กัน

จนล่าสุดคุยกันเมื่อตอนบ่าย 3 ผู้ตายโทรมาบอกว่า "ลาก่อน" ที่ผ่านมาปกติผู้ตายมักจะเป็นคนอารมณ์​รุนแรง หงุดหงิดง่าย

ด้านแม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้าไปฉีดวัคซีน กลับมาก็ปกติ นั่งเล่น นอนเล่นโทรศัพท์ ก่อนที่ช่วงบ่ายจะได้ยินเสียงปืนนัดแรก ซึ่งตนคิดว่าเป็นเสียงไฟช็อต หลังจากนั้นได้กลิ่นเขม่าปืน ก็ได้ไปตามแฟน ซึ่งนอนหลับอยู่ ซึ่งเมื่อแฟนไปดูลูกสาวก็พบว่าก่อเหตุแล้ว

ปกติน้องเป็นเด็กเรียนดี ได้ 3.85 เรื่องเรียนไม่มีปัญหา แต่เป็นเด็กใจร้อน อารมณ์​แปรปรวน ที่ผ่านมาตนไม่ทราบว่าคุยกับเพื่อนผู้ชาย นึกว่าคุยกับผู้หญิง เพิ่งมาบอกช่วงหลังว่าคุยๆกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรมาก 

รายงานข่าวแจ้งว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำศพลงมานั้น ทางเพื่อนชายคนสนิทได้เดินเข้ามาพูดภาษาลู เพื่อเป็นการสั่งเสียบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับยื่นเกาะกระจกรถมูลนิธิ​ฯเป็นครั้งสุดท้าย