“สุเทพ” ไม่กังวล ปปช. ยื่นศาลฎีกา ย้ำไม่ได้ทุจริต คดีก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง

“สุเทพ” ลั่นพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลัง ปปช.เตรียมยื่นฟ้องศาลฎีกา คดีก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง ย้ำไม่กังวลเพราะไม่ได้ทุจริต

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เตรียมยื่นฟ้องศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง หลังสำนักงานอัยการสูงสุดมีมติไม่ฟ้อง ว่า ตนพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะคดีใด ถึงจะมีคนที่พยายามจะเอาตนเข้าคุกให้ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะตนเคยนำประชาชนต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น วันนี้ถูกกล่าวหาว่าทุจริตคอรัปชั่นเสียเอง ซึ่งการที่นำคดีขึ้นศาลก็ถือว่าเป็นเรื่องดีกับตน เพราะในที่สุดจะได้พิสูจน์ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะโดนกล่าวหาอยู่แบบนี้ โดนด่าไปเรื่อยๆ อีกทั้งการต่อสู้คดีในครั้งนี้ใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากเป็นคดีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีการพิจารณาเพียงศาลฎีกาศาลเดียวก็ทราบผล

ทั้งนี้ ตนไม่ได้กังวล เพราะตนไม่ได้ทำทุจริต และในชีวิตนี้ไม่ได้โกงชาติ โกงแผ่นดิน โกงงบประมาณใด ไม่น่ากลัว

ส่วนประเด็นสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ตนยังเห็นว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีขีดความสามารถเพียงพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ประเทศไทยในขณะนี้ได้ และยังคิดว่ารัฐบาลของพลเอกประยุทธ์น่าจะอยู่ได้ครบสมัย และไม่ได้อยู่เฉยๆ แต่มีภาระหน้าที่ที่สำคัญคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งเศรษฐกิจของประเทศและของประชาชน ซึ่งทุกประเทศต่างประสบปัญหาเช่นนี้เหมือนกัน จึงถือเป็นความท้าทายของผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ท้าทายความจริงใจว่าจะทุ่มเททำงานมากน้อยเพียงใด ซึ่งตนคิดว่าพลเอกประยุทธ์เหมาะสมในสถานการณ์นี้

จะเปลี่ยนม้ากลางศึกคงยังไม่เหมาะ จะไปนั่งคิดว่าหาคนอื่นมาทำแทน ตนว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ทำอยู่แล้ว ก็ให้ทำให้จบ คนที่คิดจะทำแทนก็แต่งตัวรอไว้ก่อน เลือกตั้งทั่วไปคราวหน้าค่อยมา

ทั้งนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก เพราะเจอปัญหามากขึ้น แต่ก็ต้องอดทน ตนก็อยากจะฝากไปยังพลเอกประยุทธ์ว่าประชาชนส่วนหนึ่งเขายังศรัทธาอยู่ ยังมั่นใจ ยังเชื่อมั่น เป็นคนรักชาติ รักแผ่นดิน จงรักภักดีต่อสถาบันฯ และมีความซื่อสัตย์สุจริต คุณสมบัติ3ประการนี้จะเป็นเกราะป้องกันตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้

นอกจากนั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยังกล่าวถึงปัญหาศึกภายในพรรคพลังประชารัฐจะทำให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ตัดสินใจยุบสภาว่า ยังไม่คิดว่าจะมีประโยชน์อะไรที่จะยุบสภาก่อนครบวาระ เพราะพลเอกประยุทธ์ยังมีอีกภารกิจสำคัญที่จะต้องทำคือการจัดประชุมAPAC ที่จะเป็นการเจรจาการค้าข้อตกลง โดยจำเป็นที่จะต้องใช้หัวหน้าคณะรัฐบาลด้วยความต่อเนื่อง ไม่ควรไปเปลี่ยนกลางคัน อีกทั้งการแก้ไขปัญหาโควิดที่จะต้องทำให้จบให้สมบูรณ์ และต้องทำให้ประชาชนคนไทยปลอดภัยให้ได้ รวมถึงการแกเไขปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นภาระหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องดูแลเรื่องนี้ให้ต่อเนื่อง ซึ่งได้ทำม่ระยะหนึ่งแล้ว หากได้สานต่อตนคิดว่าดีกว่าที่จะไปนับหนึ่งกันใหม่ด้วยคนใหม่ที่ไม่ได้ทำมากับมือ ทั้งนี้คนไทยก็ไม่ต้องไปกลุ้มใจมาก เพราะการเมืองก็เป็นแบบนี้จะให้ราบรื่นทั้งหมดก็เป็นเรื่องยาก และนี่ก็เป็นธรรมชาติของนักการเมืองและพรรคการเมือง

ส่วนครั้งหน้าจะยังสนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ ให้ถึงเวลานั้นก่อน เพราะขณะนี้ไม่ทราบว่าพลเอกประยุทธ์เมื่อครบสมัยนี้จะยังสู้หรือไม่ แต่หากสู้ต่อจะไปไหวหรือไม่นั้น เมื่อพิจารณาจากผู้ที่จะมาเปรียบเทียบที่แสดงตัวว่าจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ตนยังไม่เห็นคนที่ดีกว่า หรือเหมาะสมกว่าพลเอกประยุทธ์ แต่ในอนาคตก็ยังไม่ทราบเพราะมีเวลาอีกปีกว่า