หลาน ส.ส.ปชป.ซิ่งรถเสยท้ายสิบล้อดับ
2พี่น้องหลานชายส.ส.พรรคปชป.ซิ่งกระบะสภาพแต่ง เจอถนนขรุขระเปลี่ยนเลนกะทันหันเสียหลักพุ่งชนท้ายรถบรรทุก ลากไป 30 เมตรดับคาที่ 3 ศพเจ็บอีก 2
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ดำรงพงษ์ เพ็ชรสุวรรณ พงส.(สบ 3) สน.บางเสาธง รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านธนาคม ร้านขายหินแกรนิตและหินอ่อน ถนนกาญจนาภิเษกฝั่งขาออก มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเลนกลาง ช่องทางด่วนพบรถกระบะมิตซูบิชิ รุ่นไซโคลน L 200 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ยธ 4017 กรุงเทพฯ แต่งซิ่งทั้งคัน สภาพถูกชนจนหลังคารถด้านบนเปิด ห้องเครื่องด้านหน้าพังยับเยิน ภายในมีผู้เสียชีวิตอยู่ด้านหน้าเป็นชาย 2 คน ขณะที่บริเวณที่นั่งแค็ปมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำเครื่องตัดถ่างเร่งให้ความช่วยเหลือ ก่อนนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลเกษมราษฏร์บางแค
สำหรับผู้ที่เสียชีวิตทราบชื่อนายพีระวิทย์ ธารณา อายุ 19 ปี คนขับ และนายสมชาติ ธารณา อายุ 17 ปี น้องชายที่นั่งมาด้านข้าง สภาพใบหน้าเละ คอหัก แขนและขาหัก สำหรับผู้เสียชีวิตทั้งสองคนเป็นลูกชายของนายวินัย ธารณา น้องชายแท้ๆของนายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขตบางแค ทั้งนี้ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลนั้น 1 ในผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งยังไม่ทราบชื่อ เป็นชายได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวนทราบว่า ผู้ตายและน้องชายมักจะนำรถยนต์คันดังกล่าวมารวมตัวกับเพื่อนในกลุ่ม เพื่อทดสอบความแรงรถยนต์ที่ถนนกาญจนาฯ ทุกวันพฤหัส โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับขี่รถยนต์มาด้วยความเร็วสูง โดยที่ด้านหน้าเส้นทางอีกประมาณ 100 เมตร มีการซ่อมแซมพื้นผิวจราจรอยู่บริเวณช่องทางซ้ายสุด จึงได้เปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำให้รถเกิดเสียหลักพุ่งเข้ามุดไปใต้รถบรรทุกสิบล้อ ซึ่งขับอยู่ด้านหน้าอย่างจัง ทำให้รถยนต์ติดไปกับท้ายรถบรรทุกสิบล้อ เป็นระยะทางกว่า 30 เมตร ก่อนที่รถยนต์จะหลุดออกมาได้ จนทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิตโดยทันที หลังเกิดเหตุรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวได้หลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาแก่ผู้ใด โดยจะสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียด แต่ทั้งนี้ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นค่อนข้างดึก ทำให้พยานไม่สามารถระบุได้ว่ารถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวทะเบียนอะไร มุ่งหน้าไปทิศทางใด จึงยากแก่การติดตามมาสอบปากคำ