"ต้อม ยุทธเลิศ" ยอมรับทะเลาะวิวาท "ไอซ์ รักชนก" ลั่นไม่ใช่การทำร้ายร่างกาย
"ต้อม ยุทธเลิศ" ผู้กำกับชื่อดัง ยอมรับมีการทะเลาะวิวาทกับ "ไอซ์ รักชนก" จริง แต่ไม่เรียกว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย อ้างถ้าตบหน้า 2 ครั้ง ต้องมีแผลให้เห็นแล้ว
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์อยู่ในเวลานี้ เมื่อ "ไอซ์" รักชนก ศรีนอก นักกิจกรรมคนดัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่าถูก "ต้อม" ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้า 2 ครั้ง และถีบอีก 1 ครั้ง
- "ไอซ์ รักชนก" โพสต์ถูก "ต้อม ยุทธเลิศ" ตบหน้า 2 ครั้ง กระโดดถีบ 1 ที หลังนัดเคลียร์ใจ
- รู้จักธุรกิจ "ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค" ผู้กำกับชื่อดังสร้างหนังดังพลุแตกหลายเรื่อง
ล่าสุดเมื่อช่วงกลางวันของวันนี้ (22 พ.ย.) สถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ "ต้อม ยุทธเลิศ" ซึ่งผู้กำกับชื่อดังกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการทะเลาะเบาะแว้งกันของคนที่ไม่ลงรอยกัน ยิ่ง “คนเมาสองคน” มาทะเลาะกันก็ต้องยอมรับว่า “เบรกไม่อยู่” และที่สำคัญตอนเกิดเหตุไม่ได้ทำร้ายกันแค่สองคน แต่คนอยู่กันเต็มเรือก็มีการเข้าห้ามปรามกลายเป็นความชุลมุน ตอนที่เกิดเหตุวุ่นวายมาก ส่วนที่คู่กรณีออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวในโลกออนไลน์ก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นที่คู่กรณีไปแจ้งความนั้น ต้อม ยุทธเลิศ ระบุว่า ก็ว่ากันไป ผิดว่าไปตามผิด ที่บอกว่าถูกตนทำร้ายร่างกาย ตนก็อยากจะถามว่ามีแผลหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้คู่กรณีพยายามใส่ร้ายใส่ความตนมาตลอด โดยมีการกดดันเพื่อให้ไปขอโทษ “แอมมี่ The Bottom Blues” และ “ทราย เจริญปุระ” ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการทะเลาะกันต่อในแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ แต่โดยส่วนตัวตนเชื่อว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด จึงถามกลับไปว่าทำไมต้องขอโทษ ที่สำคัญทั้งแอมมี่และทรายเป็นน้องที่ตนรู้จักมานาน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวเลย หลังจากนั้นตนก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีเรื่อยมา
นอกจากนี้ ผู้กำกับที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากวีรกรรมที่เกิดขึ้น เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในวันเกิดเหตุตนอยู่บนเรืออยู่แล้ว เพราะตนได้รับเชิญจากเจ้าของงาน “ส่องทวิตยามเช้า” ซึ่งคู่กรณีไม่ได้ถูกเชิญแต่กลับขึ้นมาบนเรือได้ ตนจึงถามคนจัดงานว่าใครเชิญ ต้องยอมรับว่าตนไม่อยากเจอคู่กรณี อยากให้ทุกคนนึกภาพของคนสองคนที่ไม่ถูกกันเมื่อเจอหน้ากันในสภาพที่มีอาการมึนเมาจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายก็เป็นเรื่องจนได้
อย่างไรก็ตาม หากตำรวจจะส่งหมายเรียกมาเพื่อไปให้ปากคำ ตนก็พร้อมจะเดินทางไปพบและยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการทะเลาะวิวาทไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกาย