คนบาปแอบตัดเศียรพระ

คนบาปแอบตัดเศียรพระ

คนบาปแอบตัดเศียรพระ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โจรใจบาปบุกวัดดังเมืองกรุงเก่า ลอบตัดเศียรพระพุทธรูปโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาอายุกว่า 400 ปี ขนาดหน้าตัก 36 นิ้ว 1 องค์ แถมวางยาเบื่อหมาตายเกลี้ยงวัด 7 ตัว เผยวัดแห่งนี้เคยถูกมารศาสนาลอบตัดเศียรพระมาแล้วถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกตัดไป 5 เศียรรวด ครั้งถัดมาได้ไป 1 เศียร และล่าสุดตัดไปอีก 1 เศียร รวมเบ็ดเสร็จ 7 เศียร ยังไม่รวมวัตถุโบราณอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ที่ถูกโจรกรรมไป ชาวบ้านแค้นรุมสาปแช่ง ประกาศกร้าวคราวนี้ถ้า ตร.จับคนร้ายไม่ได้อีก จะตั้งทีมล่าคนร้ายกันเอง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 พ.ย. พ.ต.ต.ชุมพล จำสุข สารวัตรเวร สภ.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่วัดดงหวาย ตั้งอยู่หมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง ถูกคนร้ายลอบเข้าไปตัดเศียรพระพุทธรูป จึงนำกำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบ พบพระอธิการแสวง เปมสีโล อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดดงหวาย นายตุ๋ย แก่นจันทร์ อายุ 63 ปี กรรมการวัด พร้อมชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน ยืนดูองค์พระพุทธรูปที่ถูกตัดเศียรไปในวิหารพระอาจารย์บุญมาก ด้วยความเศร้าสลดใจ

จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้ใช้คีมตัดเหล็กดัดมุดเข้าไปทางด้านข้างของวิหาร แล้วใช้เลื่อยตัดเหล็กตัดเศียรพระพุทธรูป ปูนปั้นปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 36 นิ้ว จำนวน 1 องค์ นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายได้พยายามเลื่อยตัดเศียรองค์พระขนาดใหญ่ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 51 นิ้ว อีก 2 องค์ แต่คนร้ายไม่สามารถตัดเอาไปได้ ทิ้งไว้แต่รอยเลื่อยบริเวณลำคอเท่านั้น

นายตุ๋ย กล่าวว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา อายุกว่า 400 ปี แต่เดิมมีวัตถุโบราณจำนวนมาก เมื่อ 7 ปีที่แล้วเคยถูกโจรกรรมพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนไป จากนั้นว่างเว้นมาจนเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 52 คนร้ายเข้ามาโจรกรรมตัดเศียรพระพุทธรูปในวิหารหลวงพ่อบุญมากไป 5 องค์ และช่วงปลายเดือนเดียวกันคนร้ายลอบเข้ามาตัดเศียรพระในพระอุโบสถไปอีก 1 องค์ และล่าสุดคืนวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายเข้ามาโจรกรรมตัดเศียรพระในวิหารหลวงพ่อบุญมากไปอีก 1 องค์ และวางยาเบื่อสุนัขในวัดตายไป 7 ตัว รวมแล้วมีพระพุทธรูปที่วัดแห่งนี้ถูกตัดเศียรไปแล้วถึง 7 องค์ ซึ่งยังโชคดีที่คนร้ายไม่สามารถเลื่อยเอาเศียรพระพุทธรูปองค์ใหญ่อีก 2 องค์ไปได้

"เชื่อว่าทั้งหมดเป็นฝีมือคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ซึ่งทุกครั้งที่เกิดเหตุได้แจ้งความตำรวจทุกครั้ง แต่ไม่ได้รับความใส่ใจเท่าที่ควร ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วเรื่องเงียบหายไป ซึ่งชาวบ้านก็สุดจะทนกับพฤติกรรมของโจรใจบาปกลุ่มนี้ เชื่อว่าพวกมันคงจะเข้ามาก่อเหตุอีก ชาวบ้านจึงได้ลงมติกันช่วยยกพระพุทธรูปที่อยู่ตามศาลา ต่าง ๆ จำนวน 5 องค์ ขึ้นไปเก็บรักษาไว้บนหอสวดมนต์ พร้อมกับพากันสาปแช่งคนร้าย และขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามเศียรพระกลับคืนมาด้วย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้คืนสักครั้ง หากครั้งนี้ไม่ได้คืนอีกชาวบ้านจะรวมตัวกันไปร้องทุกข์ต่อผู้ว่าฯ" กรรม การวัด กล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวส รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยเข้ามาตัดเศียรพระ ไป โดยได้รับใบสั่งมาจากกลุ่มผู้ค้าวัตถุโบราณ โดยเจ้าหน้า ที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนติดตามเศียรพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์กลับคืนมาให้ได้โดย เร็ว ผู้สื่อ ข่าวรายงานด้วยว่า กลุ่มชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายไม่ได้อีกเหมือนที่ผ่านมา จะตั้งทีมงานออกไล่ล่าติดตามคนร้ายกันเอง

ส่วนที่ จ.อ่างทอง เมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก. ภ.จว.อ่างทอง เข้าทำการสอบสวนผู้ต้องหาจำนวน 3 คนคือ จ.ส.อ.มนตรี ศรีภุมมา อายุ 46 ปี อดีตทหารในสังกัด กอ.รมน. จ.ส.ต.ชาญชัย วรดลย์ อายุ 48 ปี อดีตตำรวจสังกัด บช.น. และ อส.ทพ.วิภัตกิจ กงสุวรรณ อายุ 45 ปี หลังถูกตำรวจ สภ. วิเศษชัยชาญ จับกุมขณะนำพระพุทธรูปโบราณและไม้แกะสลักฝังมุขมาขายให้กับ นายประดิษฐ์ เอกไชโย อายุ 58 ปี พ่อค้ารับซื้อของเก่าในตลาดวิเศษชัยชาญ

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ร่วมกันตั้งแก๊งโจรกรรมวัตถุโบราณตามสถานที่ต่าง ๆ แล้วนำมาขายให้กับนายประดิษฐ์ กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบจึงเข้าจับกุมตัวได้ทั้งแก๊ง รวมทั้งพ่อค้าของเก่าที่รับซื้อของโจรดังกล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook