น้องหอบเงิน 8.4 หมื่น ประกันตัวหนุ่มเมากาวอนาจารเด็ก-ผู้หญิง อายแต่ตัดไม่ขาด
น้องสาวหนุ่มเมากาวกระทำอนาจารผู้หญิง-เด็ก หอบเงิน 8.4 หมื่นบาทประกันตัวพี่ชาย ยอมรับอับอายทั้งวงศ์ตระกูลแต่ก็ตัดกันไม่ขาด
จากกรณีคลิปภาพกล้องวงจรปิด คนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 35-40 ปี ลักษณะผอม รูปร่างตัวเล็ก ได้แอบเข้าไปในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอยเดชอุดม 20 เขตเทศบาลนครราชสีมา พยายามเข้าไปเปิดประตูตามห้องพักต่างๆ ก่อนจะก่อเหตุกระทำอนาจารหญิงสาว วัย 22 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวเจ้าของห้องเช่า โดยพบว่า ชายคนร้ายดังกล่าวได้ก่อเหตุกระทำการในลักษณะแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดก็ไปก่อคดีบุกรุกเข้าไปยังลวนลามเด็กหญิงวัย 10 ปี ภายในห้องนอน และทำร้ายร่างกายพ่อของเด็กหญิงจนได้รับบาดเจ็บ
ต่อมา 22 พ.ย.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ทราบชื่อคือ นายเดิมเชียงแสน อายุ 40 ปี ชาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในซอยเดชอุดม 7/2 เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ก่อนที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา จะแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา ได้แก่ บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และทำร้ายร่างกาย แล้วส่งสำนวนให้อัยการฟ้องศาลจังหวัดนครราชสีมา โดยศาลฯ ได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่เรือนจำคลองไผ่ อ.สีคิ้ว เนื่องจากเรือนจำกลางนครราชสีมา ยังไม่สามารถฝากขังได้ เพราะติดปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ ซึ่งศาลได้รับเรื่องคัดค้านเพื่อนำไปพิจารณาต่อไป
ล่าสุด วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2564) เวลา 11.00 น. ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา น.ส.ชนาภัทร อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ต้องหา ได้นำเงินหลักทรัพย์ จำนวน 84,000 บาท มายื่นต่อศาล เพื่อขอประกันตัวผู้ต้องหา โดยมีญาติของผู้เสียหาย ประมาณ 10 คน เดินทางมาเพื่อคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะมาก่อเหตุซ้ำอีก เพราะผู้ต้องหาเคยมีประวัติก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง จนถูกศาลสั่งจำคุก และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียง 6 เดือน ก่อมาก่อเหตุซ้ำในครั้งนี้
ด้าน น.ส.ชนาภัทร เปิดเผยว่า ครอบครัวตนเองนั้นมีพี่น้องด้วยกัน 2 กัน คือตนเองกับนายเดิมเชียงแส ซึ่งเป็นพี่ชาย ส่วนพ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นจึงมีเพียงตนที่ดูแลพี่ชายอยู่ ทั้งนี้พี่ชายมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และไม่มีครอบครัว โดยเช่าห้องพักอาศัยอยู่คนเดียวในตัวเมืองนครราชสีมา ส่วนตัวเองก็อยู่ที่ อ.สีคิ้ว นานๆ ครั้งถึงได้มาเยี่ยมพี่ชาย ยอมรับว่าพี่ชายเป็นคนชอบดมกาว และมักจะมีอาการหลอนบ่อยครั้ง แม้ว่าจะเตือนแต่ก็ไม่ค่อยฟัง ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างความอับอายให้กับวงศ์ตระกูลมาก ก็ต้องขอโทษญาติผู้เสียหายด้วยที่พี่ชายของตนเองทำเรื่องเช่นนี้ ถึงอย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยเหลือ ตัดขาดกันไม่ได้ วันนี้จึงได้นำเงินจำนวน 84,000 บาท มาประกันตัวพี่ชายออกไปสู้คดี และขอให้ญาติผู้เสียหายได้ยกโทษให้พี่ชายของตนด้วย