ประยุทธ์ สะดุดบันได-หัวโขกประตูรถ บ่นเพราะใจร้อนเดินเร็ว ยันยังอยู่กับลุงป้อม

ประยุทธ์ สะดุดบันได-หัวโขกประตูรถ บ่นเพราะใจร้อนเดินเร็ว ยันยังอยู่กับลุงป้อม

ประยุทธ์ สะดุดบันได-หัวโขกประตูรถ บ่นเพราะใจร้อนเดินเร็ว ยันยังอยู่กับลุงป้อม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯ ประยุทธ์ บ่นอุบ "ใจไปก่อนเท้า" หลังเดินสะดุดบันได แถมศีรษะโขกกับประตูรถ ย้ำยังขออยู่กับ "ลุงป้อม" ไม่ทิ้งพรรคพลังประชารัฐ

วันนี้ (24 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการไปร่วมงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ว่า “หากเชิญ ไปได้ ก็จะไป” พร้อมยืนยัน ตนไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรในวันงานเลี้ยงพรรคร่วม ส่วนที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยมองว่าเสถียรภาพของรัฐบาลง่องแง่นนั้น นายกรัฐมนตรีย้อนถามว่า “ง่อนแง่นตรงไหน วิเคราะห์ไปเองมั้ง”

เมื่อถามว่าตั้งใจจะให้รัฐบาลอยู่ครบเทอมหรือไม่ และจะยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ไปพรรคสำรองใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อยู่เหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวะที่นายกรัฐมนตรีกำลังจะเข้ารถ ศีรษะได้โขกกับขอบบานประตูรถ จึงลูบศีรษะเบาๆ ก่อนจะยืนยันความชัดเจนของตนว่าจะยังไม่ไปที่ไหน และยังไม่ได้มองว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองใด โดยบอกว่า “ก็อยู่กับลุงป้อมก็แล้วกัน”

สะดุดบันได-หัวศีรษะโขกประตูรถ เพราะใจร้อนเดินเร็ว

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภากลาโหม ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินลงจากศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ปรากฏว่ามีการสะดุดบันได ก่อนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมชี้แจงว่า “ใจไปก่อนเท้า ว่าจะรีบไปงานพิธีประกาศผลและมอบรางวัลพระราชทาน SMEs Excellence Awards 2021 และรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Award 2021

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกระแสการยุบสภา ภายหลังรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขประกาศใช้ว่า จะไม่มีการยุบสภา แม้ว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับนั้นจะประกาศใช้แล้ว ก็ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่มีการยุบสภา

ส่วนจะอยู่จนกว่าจะประชุม APEC แล้วเสร็จหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ก็สุดแล้วแต่สถานการณ์ เรื่องการเมืองก็ว่ากันไป อยู่ตามรัฐธรรมนูญ เพราะบ้านเมืองมีปัญหาเยอะแยะที่จะต้องแก้ไข ตอนนี้ประเทศก็เดินหน้าไปได้เยอะแล้วเช่นกัน ทั้งการหารายได้ใหม่เข้าประเทศ หากเอาปัญหามาตีทุกวันก็ไปไม่ได้ เพราะปัญหาก็คือปัญหา ซึ่งต้องดูว่าแต่ละปัญหานั้นทับซ้อนเพียงใด ก็แก้ไขมาโดยตลอดทุกเรื่อง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า หัวใจสำคัญคือการดูแลผู้มีรายได้น้อย และต้องแก้ทั้งระบบให้ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีมี 2 บทบาท คือ การอนุมัติงบประมาณ การจัดทำแผนงานโครงการ ที่ต้องรักษาเสถียรภาพการเงินการคลังไปด้วย เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการอย่างระมัดระวัง หากใช้อย่างเดียวก็อีกเรื่องหนึ่ง

อีกทั้งวันนี้ได้สั่งการไปแล้วว่าจะดูแลเกษตรกรอย่างไร ส่วนการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมัน รวมไปถึงการแก้ปัญหาเรื่องภาษี ที่ต้องนำไปใช้ในกิจการทั้งประเทศ พร้อมกับยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีพยายามเต็มที่อย่างถึงที่สุดแล้ว ไม่ให้ผิดกฎหมาย ไม่ให้เกิดการทุจริต หากเจอก็ลงโทษ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook