หลานทาสยา แทงคุณตาดับคาบ้าน ถูกตำรวจจับยังยิ้มไม่หยุด บอก "ก็แค่อยากแทง"

วันที่ 24 พ.ย.64 เมื่อเวลา 18.30 น. ร.ต.อ.อภิทักษ์ ยันทรักษ์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 17 บ้านนิคม ต.นิคม อ.สตึก ว่ามีคนถูกแทงอาการสาหัส จึงประสานหน่วยกู้ภัยวังกรูด ให้ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ใน ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ บริเวณหน้าบ้านพบรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อฮอนด้า พ่วงข้าง พบรอยเลือดเปื้อนอยู่บนรถพ่วงข้าง และบนพื้นดินหน้าบ้าน ส่วนผู้บาดเจ็บคือนาย อำคา ปะติกานัง อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน ถูกนำส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาตรวจสอบพบบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าอกซ้าย ซี่โครงขวา และหน้าท้องขวา รวม 3 แผล

ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายชยพล หรือเบ็ก ปะติกานัง อายุ 21 ปี หลานแท้ๆของผู้เสียชีวิต ที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ตำรวจได้ควบคุมตัวได้ที่โรงพยาบาลขณะไปดูอาการของตาตัวเอง นำตัวไปสอบสวนที่ สภ.สตึก  พร้อมของกลางเป็นมีดปอกผลไม้ หักเป็น 2 ท่อน จำนวน 1 เล่ม

โดยระหว่างการสอบสวน นายเบ็ก มีอาการยิ้มแย้มร่าเริงแจ่มใส เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อตำรวจถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ นายเบ็ก บอกไม่รู้เพราะอะไร รู้เพียงว่าอยากแทงเฉยๆ และยอมรับว่าได้เสพยาบ้าไปจำนวน 1 เม็ดในช่วงเช้า 

ต่อมานายเบ็ก ได้สารภาพถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นตานั่งบนรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างอยู่หน้าบ้าน ตนได้นั่งคุยกับตาตัวเองตามปกติ จู่ๆก็คิดอยากนึกแทงตาขึ้นมา จึงคว้ามีดที่วางอยู่ในรถพ่วง ไปแทงตา 3 ครั้ง แล้วอุ้มตาลงจากรถ เอามาวางไว้หน้าบ้าน ก่อนจะตามแม่ที่นั่งดูทีวีอยู่ในบ้านมาดู พร้อมบอกว่าให้พาตาไปส่งโรงพยาบาล

ขณะที่นางกชพร อายุ 42 ปี แม่ของนายเบ็ก บอกว่า ที่ผ่านมาเห็นพฤติกรรมของลูกมาโดยตลอด ชอบเสพยาบ้า ได้วางแผนจะเอาลูกไปบำบัด แต่ยังไม่ทันจะเอาไป มาก่อเหตุขึ้นก่อน  ยอมรับเสียใจ เพราะได้เตรียมจัดงานวันเกิดให้พ่อครบรอบ 69 ปี ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ แต่มาเสียชีวิตก่อน หลังจากนี้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย 

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)