กต.กร้าว!!! ชี้ลูก ฮุน เซน ฮุบ แคทส์ ไม่ง่าย
เลขาฯรมว.ต่างประเทศ ระบุ ไทยไม่สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นบ. แคทส์ได้ เพราะจดทะเบียนสัญชาติฮ่องกง เชื่อกรณีจะเข้าฮุบกิจ การโดยบุตรสาว "สมเด็จฮุน เซน" ไม่ใช่เรื่องง่าย
(21พ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.ต่างประเทศ เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่บุตรสาวของ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมน ตรีกัมพูชา จะเข้าถือหุ้นในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS ) ว่า บริษัทดังกล่าวเป็นสัญชาติฮ่องกง ดังนั้น การที่ทางการไทยจะเข้าไปทำอะไรคงเป็นเรื่องลำบาก จึงยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นได้
"กระทรวงต่างประเทศจะตรวจสอบว่าจะเข้าไปช่วยเหลือ บ.CATS ได้อย่างไรบ้าง เข้าข่ายตามข้อตกลงการลงทุนระหว่างไทย-กัมพูชาหรือไม่ เพราะการดำเนินการใดๆต้องเป็นไปตามขั้นตอน และเห็นว่าการที่จะมีบุคคลใดเข้าไปยึดครองบริษัทใด คงไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่ายๆ " นายชวนนท์ กล่าว
ส่วนการสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนไทยในกัมพูชา นายชวนนท์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีข้อตกลงเรื่องการคุ้มครองการลงทุนให้กับบริษัทสัญชาติไทย หากเกิดอะไรขึ้นสามารถฟ้องเพื่อร้องขอความยุติธรรมได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีบริษัทไทยร้องขอความช่วยเหลือมายังกระ ทรวงการต่างประเทศ
สำหรับความคืบหน้าขอยื่นประกันตัว นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย นายชวนนท์ คาดว่า สัปดาห์หน้าจะเรียบร้อย ช่วงที่ผ่านมาทนายความและกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกันเรื่องเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อเขียนคำร้องยื่นขอประกันตัว เชื่อไม่น่ามีปัญหา ส่วนการเดินทางไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ของมารดา ขณะนี้กำลังประสานอยู่เช่นกัน คาดว่าสัปดาห์หน้าน่าจะได้พบ ขณะรอเพียงการดำเนินการในส่วนของกัมพูชา
ก่อนหน้านั้นนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประ จำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีทางการกัมพูชาเข้ายึดบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิส จำกัด (แคทส์) เป็นการชั่วคราว ว่า เป็นข้อกล่าวหาของทางกัมพูชาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลความลับ โดยกัมพูชาดำเนินการตามขั้นตอนที่ดูแลเกี่ยวกับความลับ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานงานอยู่ และเมื่อมีทนายความแล้วคงได้ประสานงานต่อไป
"เนื่องจากเป็นกฎหมายภายในของกัมพูชา เราคงไม่ให้ความเห็นอะไร แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจการการลงทุนของคนไทยที่รับการส่งเสริมในกัมพูชา จะได้รับการดูแลคุ้มครองตามกฎหมายของกัมพูชา เพื่อสร้างบรรยากาศในการลงทุนที่ดี แต่เชื่อว่าผู้บริหารบริษัทดังกล่าวมีประวัติการทำงานอย่างดีในกัมพูชามายาวนาน ดังนั้นคงมีการประสานกัน ทางไทยจะดูแลช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกเต็มที่" นายปณิธาน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ว่าบุตรสาวของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเข้าถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวเสียเอง นายปณิธาน กล่าวว่า "ใช่ครับ และบริษัทนี้เข้าใจว่าจดทะเบียนในต่างประเทศ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะได้รับการคุ้มครองในลักษณะที่จดทะเบียนในกัมพูชาหรือไม่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของบริษัทที่จะดำเนินการขอคำร้อง เพื่อที่จะให้ทางการกัมพูชาพิจารณาในกรณีนี้"
ผู้สื่อข่าวถามว่าตามกฎหมายของกัมพูชาระบุให้ยึดบริษัทชั่วคราวได้นานแค่ไหน นายปณิธาน กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการบอกชัดเจน คงต้องดูความเหมาะสม
นายปณิธาน กล่าวอีกว่า ขณะนี้เราเพิ่งคัดเลือกและได้แต่งตั้งทนายความเพื่อช่วยเหลือกรณีของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัท ส่วนทนายความของบริษัทนั้นเข้าใจว่ายังไม่มี กำลังรอความชัดเจน เพราะบริษัทคงมีคณะทนายความเพื่อที่จะทำงานในด้านนี้ อีกไม่นานคงมีความชัดเจน
ด้านนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น บริษัทแม่ของบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งความคืบหน้าใดๆ จากรัฐบาลกัมพูชา สถานการณ์ตอนนี้เป็นไปตามที่เคยแจ้งข่าวกับตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว โดยยังยืนยันว่าเป็นการเข้ามาดูแลชั่วคราวเนื่องมาจากคดีวิศวรกรไทยไม่ได้ถูกยึดบริษัทแบบเบ็ดเสร็จแต่อย่างใด และถ้ามีความคืบหน้ากว่านี้ก็จะแจ้งกับตลาดหลักทรัพย์อีกที
ด้านหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชาพาดหัวข่าว "เขมรปฏิเสธส่งอาวุธให้กลุ่มคนเสื้อแดง และระบุกัมพูชาเตรียมบ้านรับรองให้แก่แกนนำคนเสื้อแดงที่อาจหนีจากไทย" โดยมีภาพนายจักรภพ เพ็ญแข ชู 2 นิ้ว ขึ้นหน้าหนึ่ง
เนื้อหาของหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชาฉบับดังกล่าวระบุว่า นายเขียว สุเพียะ โฆษกกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของนายจักรภพที่เคยให้สัมภาษณ์เอเชียไทม์สออนไลน์ว่าคนเสื้อแดงได้สั่งอาวุธจากกัมพูชาโดยจะส่งไปให้คนเสื้อแดงที่ภาคอีสานเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลไทย
ทั้งนี้นายเขียวระบุว่า เรื่องอาวุธนั้นกัมพูชาไม่มี แต่ก็ไม่ขาด รัฐธรรมนูญกัมพูชากำหนดไว้ว่า กัมพูชาไม่ให้ดินแดนหรืออาวุธแก่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือใครหรือเพื่อล้มรัฐบาลใด และกัมพูชาไม่เคยทำร้ายประเทศไทย มีแต่ไทยที่ทำร้ายกัมพูชา
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชายังระบุว่า หนังสือพิมพ์เอเชียไทม์สออนไลน์ได้เสนอข่าวว่าหลังจากรัฐกัมพูชาสร้างบ้านรับรองให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในกัมพูชาแล้ว กำลังเตรียมบ้านพักรับรองให้แก่แกนนำคนเสื้อแดงที่หลบหนีคดี คือนายจักรภพ เพ็ญแข และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อีก