ชู้เฒ่า 69 แทงสาว 45 ดับอนาถ หลอกให้รักเปย์เป็นล้าน พอเงินหมดตีตัวออกห่าง

ชู้เฒ่า 69 แทงสาว 45 ดับอนาถ หลอกให้รักเปย์เป็นล้าน พอเงินหมดตีตัวออกห่าง

ชู้เฒ่า 69 แทงสาว 45 ดับอนาถ หลอกให้รักเปย์เป็นล้าน พอเงินหมดตีตัวออกห่าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชู้วัย 69 แทงสาว 45 ดับอนาถ พบรักในวงไฮโล ส่งเสียเลี้ยงดูเป็นล้าน พอเงินหมดตีตัวออกห่าง ฝ่ายสามีผู้ตายก็รู้อยู่เต็มอก ภรรยาไปกิ๊กกับชายรุ่นลุง

วันที่ 4 ธ.ค.64 พ.ต.ท.สันต์ เทียมวงศ์ สารวัตร(สอบสวน)สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ นำตัว นายสม อายุ 69 ปี มาสอบสวน พร้อมของกลางเป็นปูนลูกซองสั้น 1 กระบอก และอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 30 ซม.เปื้อนเลือด 1 เล่ม

หลังจากเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดเล่มดังกล่าวแทง นางรุ่งเรือง อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นบ้านเช่าของผู้ตาย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพบมีร่องรอยการถูกแทงด้วยของมีคม บริเวณหน้าอกซ้าย และบริเวณท้องรวม 6 แผล

โดยนายสม ให้การกับตำรวจว่า ตนไม่มีภรรยา เมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ได้รู้จักกับนางต๋อย ในวงไฮโลในหมู่บ้าน จากนั้นได้สานสัมพันธ์กันจนได้เสียกันเป็นสามีภรรยากันอย่างเปิดเผย ถึงแม้จะรู้ว่านางต๋อย จะมีสามีและลูกเป็นตัวเป็นตนก็ตาม แต่สามีนางต๋อย ไปทำงานอยู่จังหวัดระยอง ไม่ค่อยได้กลับบ้านตนซึ่งรักเขาไปแล้วพยายามส่งเสียเลี้ยงดูมาโดยตลอด หมดเงินไปนับล้านบาท แต่ในระยะหลังนางต๋อย กลับพยายามตีตัวออกห่าง เพราะไม่มีเงินส่งเสียตั้งช่วงโควิด-19 ระบาด และพยายามไปติดชายใหม่ จนถึงขั้นไล่ตนหนีออกจากบ้าน ตนพยายามตามง้อคืนดี แต่ไม่เป็นผลจึงสะสมความแค้นมานานร่วม 2 ปี 

วันเกิดเหตุตนทราบว่านางต๋อย จะไปออกกำลังกายกับเพื่อนทุกวัน จึงปีนรั้วเข้าหลังบ้าน พกปืนลูกซอง และมีดติดตัวมาด้วย แล้วมาดักซุ่มรอบริเวณศาลพระภูมิ จนกระทั่งนางต๋อย กลับมาถึงบ้านเวลา ประมาณ 18.00 น.เมื่อเห็นเปิดประตูบ้านเข้ามา ตอนแรกกะจะใช้ปืนยิง แต่เกรงว่าจะเสียงดัง จึงเข้าไปใช้มีดกระหน่ำแทงแบบไม่ยั้ง จนนางต๋อย ล้มคว่ำลง จึงหลบหนีไป ตอนแรกคิดว่าจะผูกคอตายตามในช่วงกลางดึก แต่อากาศหนาว จึงเปลี่ยนใจกลับบ้าน แต่มีเจ้าหน้าที่มาดักรอที่บ้านแล้ว ก่อนจะถูกควบคุมตัวดังกล่าว

ขณะ นายแก้วเจริญ อายุ 58 ปี สามีนางรุ่งเรือง ผู้ตาย เล่าว่า รู้เรื่องภรรยาตนกับนายสม มีความสัมพันธ์กันมาประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา พยายามชวนภรรยาไปทำงานด้วยกัน แต่ไม่ไป จึงตามใจและโอนเงินค่าใช้จ่าย ค่าเช่าบ้านมาให้ประจำ ส่วนนายสม รู้จักกันดีนับถือเป็นลุง ช่วงที่ตนกลับบ้านได้เรียกมากินข้าวด้วยกันประจำ แต่ไม่คิดว่าจะทำรุนแรงขนาดนี้ 

ทั้งนี้เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และ พ.ร.บ.อาวุธปืน พร้อมคัดค้านการประกันตัวเอาไว้ก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook