สาทิตย์ จับตาโอ๊ค-เอม เปิดตัววอยซ์ทีวี

โอ๊ค-เอม เปิดตัววอยซ์ทีวี ปัดไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมืองของพ่อ ย้ำทำรายการทีวีสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ วอนสปอนเซอร์ช่วยซื้อโฆษณาหลังทุ่มเงินลงทุนทำทีวีผ่านอินเตอร์เน็ตถึง 300 ล้าน

ที่บริษัทวอยซ์ทีวี วันที่ 23 พ.ย. เวลา 14.00 น. นายทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการผู้อำนวยการบริษัทวอยซ์ทีวี อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนายพานทองแท้ ชินวัตร และน.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ร่วมแถลงข่าวเปิดตัววอยซ์ทีวี ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแห่งแรกของประเทศไทย

นายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทวอยซ์ทีวี กล่าวว่า การเปิดวอยซ์ทีวีต้องการนำเสนอเนื้อหาสาระที่ดีแบบรอบด้าน โดยตนสนใจงานด้านสื่อสารมวลชนมีประสบการณ์จากบริษัทฮาวคัม และมีทีมงานเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ยืนวันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแอบแฝง ไม่เน้นทำเรื่องเสื้อแดง แต่จะเน้นเนื้อหาสาระที่ดี จึงอยากให้ประชาชนเข้ามาดูและพิจารณาก่อนตัดสินใจ ในส่วนของข่าวการเมืองนั้น จำเป็นต้องนำเสนอเพราะเป็นเรื่องปกติของข่าว โดยจะเสนอไปตามความเป็นจริง นายกรัฐมนตรีพูดอะไรก็ว่าไปอย่างนั้น ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มเติม ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการเปิดวอยซ์ทีวี ไม่ได้เป็นการเพิ่มช่องทางในการทำธุรกิจเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดคุยหรือสื่อสารกับคนไทยมากขึ้น โดยวอยซ์ทีวีเป็นเรื่องธุรกิจไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการทำรายการก็ต้องจ้างผลิต เพราะเป็นธุรกิจ สำหรับช่องทางออกอากาศนั้น หากมีดาวเทียมช่องอื่นนอกเหนือจากดีทีวีให้เรานำรายการไปออกอากาศ ตนก็พร้อมจะนำรายการไปออกอากาศทุกจานดาวเทียม

ด้าน น.ส.พินทองทา ชินวัตร กรรมการบริษัทวอยซ์ทีวี กล่าวว่า อยากให้ผู้ชมพิจารณาดูเนื้อหาของวอยซ์ทีวี ก่อนว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองมากน้อยแค่ไหน โดยตนยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ เราทำธุรกิจที่บริสุทธิ์ และหวังคืนทุนภายใน 5 ปี ด้วยการขายโฆษณา ส่วนน.ส.แพทองธารขณะนี้กำลังเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ในปีหน้าก็จะกลับมาร่วมงานที่วอยซ์ทีวี

เมื่อถามว่าได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ น.ส.พินทองทา กล่าวว่า คุยกันทุกวัน การแถลงเปิดตัววอยซ์ทีวีในช่วงนี้ ไม่กลัวที่จะถูกดึงไปเป็นประเด็นการเมือง ความจริง เลื่อนมาหลายครั้งแล้ว และเมื่อมีความพร้อมจึงเปิดแถลงข่าว และไม่ว่าจะเปิดตัวเมื่อไร ก็ถูกดึงไปเป็นประเด็นการเมืองอยู่ดี ใครจะคิดอะไรก็คิด ขอเพียงให้เข้ามาดูในเว็บไซต์ก็จะรู้ความจริง ว่า ไม่ใช่ประเด็นการเมือง สำหรับการลงทุนในวอยซ์ทีวีมีการลงทุนไปเป็นจำนวนมาก ทั้งในเรื่องการสร้างสตูดิโอ และการจัดทำรายการ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แต่คนยังไม่ค่อยเข้าใจ จึงทำให้ยอดโฆษณาเข้ามาไม่มากนัก

นายพานทองแท้ กล่าวเสริมว่า เนื้อหาของวอยซ์ทีวี 100% เป็นรายการเพื่อความรู้ การศึกษา และการสร้างแรงบันดาลใจ ยืนยันว่าในรายการของวอยซ์ทีวีไม่มีสี ตาบอดสีก็ดูได้ ไม่กลัวว่าจะถูกโจมตีว่าเปิดสื่อเป็นช่องทางให้พ่อ เพราะหน้าของตนก็เป็นโลโก้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเปิดตัววอยซ์ทีวีตนได้ปรึกษาพ่อ พ่อก็แนะนำว่าทำอะไรก็ได้ แต่อย่าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง แม้แต่การสัมภาษณ์ในวันนี้ก็ไม่ให้พูดเรื่องการเมือง ตนจึงยืนยันอีกครั้งว่าวอยซ์ทีวีไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองจริงๆ ขอให้สปอนเซอร์เข้ามาดูและกล้าๆซื้อโฆษณา

ด้านนายทรงศักดิ์ กล่าวว่า วอยซ์ทีวีจะถ่ายทอดผ่านเว็บไซต์ www.voicetv.co.th และจานดาวเทียมดีทีวี ในช่วงเริ่มต้นจะออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 20.00-22.00 น. ประกอบด้วยรายการ วอยซ์นิวส์ วอยซ์ทอล์ค รายการข่าวต่างประเทศรูปแบบใหม่ รายการสำหรับผู้หญิง-ผู้ชาย รายการท่องเที่ยวแบบคนรุ่นใหม่ สำหรับแผนการออกอากาศในปี 2510 จะออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมกันทั้งเวบไซต์และจานดาวเทียม เช่น รายการวิเคราะห์ข่าวภาษาอังกฤษ The daliy doze ดำเนินรายการโดย ม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุล รายการสนทนาเชิงลึกแนวฮาร์ด ทอล์ค Intelligence ดำเนินรายการโดยนายจอม เพชรประดับ และน.ส.ตวงพร อัศววิไล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวเปิดตัววอย์ซทีวีได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทุกแขนง ทำให้สตูดิโอที่เตรียมจัดเป็นห้องแถลงข่าวแน่นขนัด ส่วนบรรยากาศการเปิดตัวรายการทีวี ก็รูปแบบแตกต่างไปจากการแถลงข่าวทั่วไป โดยบรรยากาศและการจัดแสงเสียงของงานคล้ายกับงานเลี้ยงภายในผับ เพื่อให้เข้ากับกระแสคนรุ่นใหม่ สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้ไม่มีนักการเมืองมาร่วมแสดงความยินดี จะมีก็เพียงอดีตพนักงานไอทีวี อาทิ นายกิตติ สิงหาปัด มาร่วมแสดงความยินดี

ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่จับตาวอยซ์ทีวีของ บุตรชาย และบุตรสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ หากเนื้อหาผิดกฎหมายก็พร้อมปิดทันที เพราะไม่ต้องการให้สังคมสับสน