4 จังหวัดภาคใต้ น้ำยังท่วม "สุราษฎร์ธานี" ระดับน้ำตาปีเพิ่ม รพ.เปิดรับฝากรถ

4 จังหวัดภาคใต้ น้ำยังท่วม "สุราษฎร์ธานี" ระดับน้ำตาปีเพิ่ม รพ.เปิดรับฝากรถ

4 จังหวัดภาคใต้ น้ำยังท่วม "สุราษฎร์ธานี" ระดับน้ำตาปีเพิ่ม รพ.เปิดรับฝากรถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

4 จังหวัดภาคใต้ น้ำยังท่วม "สุราษฎร์ธานี" ไม่พ้นวิกฤต ระดับน้ำตาปีเพิ่มสูง รพ.เปิดรับฝากรถหนีน้ำท่วม

(5 ธ.ค.64) โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ ติดป้ายประกาศรับฝากรถ ภายในโรงพยาบาล สำชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม ชุมชนปากบาง ที่เคยถูกน้ำท่วมหนักเมื่อปี 54 ได้นำรถไปฝากจอดไว้ได้ เนื่องจากสถานที่ของโรงพยาบาลเป็นเนินสูงน้ำไม่สามารถท่วมได้ ลดการสูญเสีย ซึ่งตอนนี้ประชาชน เริ่มนำรถไปจอดไว้ที่สูงใกล้ๆ บ้านแล้ว เพราะน้ำตาปียังเพิ่มขึ้นเรื่อย 

โดยสถานการณ์น้ำตาปี ช่วงอำเภอพุนพิน ณ จุดวัดน้ำ โรงไฟฟ้าสุราษฎร์ฯ ตำบลเขาหัวควาย อ.พุนพิน ระบบโทรมาตรเขื่อนรัชประภา พบว่า ระดับน้ำสูงกว่าจุดวิกฤติแล้ว 42 เซนติเมตร (ระดับวิกฤติ 2.15 เมตร) แต่ยังไม่ส่งผลให้น่ำท่วมโรงไฟฟ้า เพราะระดับน้ำที่จะท่วมโรงไฟฟ้าต้องอยู่ที่ระดับ 4.22 เมตร แต่พื้นที่ลุ่มริมตาปีได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้เพิ่มเล็กน้อยและเริ่มทรงตัว 

ด้านศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานสถานการณ์อุทกภัย วันที่ 5  ธันวาคม 2564 ข้อมูล เวลา 08.30 น. จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้กำลังแรง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปริมาณน้ำฝน 24 ชม. ฝนตกเล็กน้อย .

สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี  สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้  กำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 – 5  ธันวาคม  2564  สรุปมีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 14 อำเภอ 75 ตำบล 429 หมู่บ้าน 15,193 ครัวเรือน 45,005 คน เสียชีวิต 3 ราย (อ.ไชยา 2 ราย และ อ.ท่าฉาง 1ราย)  

  • สถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ จำนวน 8 อำเภอ (อ.ดอนสัก อ.ท่าชนะ อ.ชัยบุรี อ.เกาะพะงัน  อ.เกาะสมุย  อ.ไชยา  อ.ท่าฉาง  และ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี)
  • ยังมีพื้นที่ประสบอุทกภัย น้ำท่วมขัง จำนวน 6 อำเภอ (อ.พระแสง อ.เวียงสระ อ.เคียนซา อ.บ้านนาสาร  อ.บ้านนาเดิม  และ อ.พุนพิน ) รวม 23 ตำบล 106 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 2,755  ครัวเรือน 8,920 คน 

แนวโน้มสถานการณ์ ฝนหยุดตก น้ำตาปีเริ่มลดลง ยังท่วมพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำตาปี ในส่วนพื้นที่ติดทะเลอ่าวไทยระดับน้ำลดลง ทุกหน่วยงานเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลโดยเร็ว ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เน้นย้ำให้อำเภอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ

  • แจ้งเตือนให้ราษฎรให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง ให้ทั่วถึงทุกครัวเรือน
  • เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกด้าน
  • เตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกลยุทโธปกรณ์ กำลังพล พร้อมให้ความช่วยเหลือ ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องขอ
  • จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตาม สถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 23 พ.ย.-5 ธ.ค.64 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พัทลุง สงขลา ตรัง และนราธิวาส รวม 63 อำเภอ 281 ตำบล 1,464 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 70,771 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง รวม 17 อำเภอ 80 ตำบล 474 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,784 ครัวเรือน ดังนี้

  1. ชุมพร มีน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหลังสวน รวม 10 ตำบล 33 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 701 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  2. สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอพุนพิน อำเภอบ้านนาสาร อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอไชยา อำเภอท่าฉาง และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีรวม 39 ตำบล 228 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,797 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  3. นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาบอน อำเภอชะอวด อำเภอทุ่งสง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอถ้ำพรรณรา อำเภอร่อนพิบูลย์ และอำเภอท่าศาลา รวม 30 ตำบล 208 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,033 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  4. พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเขาชัยสน รวม 1 ตำบล 5 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง

ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.-5 ธ.ค.64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี และนครปฐม รวม 5 อำเภอ 68 ตำบล 575 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,421 ครัวเรือน โดยภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ดังนี้

  1. สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 240 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,015 ครัวเรือน
  2. นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี และอำเภอสามพราน รวม 40 ตำบล 335 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,406 ครัวเรือน

สำหรับภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดย ปภ.ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

     

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook