เจ้าสัวเปรมชัย ลุ้น! ฎีกาชี้คดีล่าเสือดำ "ประยุทธ์" เตือนหากหลบหนี เจอหมายจับแน่
ประยุทธ์ ชี้คดีเสือดำ เปรมชัย จำเลยควรไปศาล หากหลบหนี ก็ต้องถูกหมายจับ ให้ ตม. ตามตัวเหมือนทุกคดีที่ผ่านมา ด้านศาลจังหวัดทองผาภูมิเตรียมพิพากษาคดีชั้นฎีกา กรณี เปรมชัย กับพวก ล่าสัตว์ป่าสงวนในทุ่งใหญ่นเรศวร หลังอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุกไม่รอลงอาญา
วันที่ 7 ธ.ค. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีล่าเสือดำ ที่มี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด เป็นจำเลยในคดี ว่า ถ้าจะให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์ก็อย่าไปทำตาม พร้อมระบุว่า "เมื่อศาลเขาเรียกไป ก็ต้องไป จะมาบอกว่าไม่ไปแล้วนายกฯ จะทำอย่างไร ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เสือดำ ดังนั้นคนที่ถูกเรียกไม่ไป ก็ออกหมายจับ และส่งรายชื่อต่าง ๆ ไปชายแดน ด่านทุกด่านตรวจ ก็จับเอา เหมือนทุกคดี"
ลุ้น! ฎีกา ชี้คดี "เปรมชัย" กับพวก ล่าเสือดำ ทุ่งใหญ่นเรศวร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 8 ธ.ค. 2564 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีล่าเสือดำ หมายเลขดำ อ .219/2561 ที่พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ฟ้อง เปรมชัย กรรณสูตร อดีตประธาน กรรมการ บมจ. อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ ยงค์ โดดเครือ คนขับรถ นที เรียมแสน แม่ครัว ธานี ทุมมาศ พรานป่า เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
กรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2561 พวกจำเลยได้ร่วมกันเข้าไปในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตตะวันตก จ.กาญจนบุรี แล้วร่วมกันฆ่าเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน เพื่อเป็นอาหาร
ทั้งนี้ จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมา ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าพวกจำเลยกระทำผิดพิพากษา จำคุก เปรมชัย จำเลยที่ 1 รวม 16 เดือน ไม่รอลงอาญา จำคุก ยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 รวม 13 เดือน ไม่รอลงอาญา จำคุก นที เรียมแสน จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี และจำคุก ธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 รวม 2 ปี 17 เดือน ไม่รอลงอาญา และให้จำเลยทั้งหมด ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้เสียหายด้วย
โดย อัยการโจทก์และจำเลยทั้งสี่ต่างยื่นอุทธรณ์ ต่อมาศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 โดยพิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษจำคุก เปรมชัย กรรณสูต รวม 2 ปี 14 เดือน ยงค์ โดดเครือ รวมจำคุก 2 ปี 17 เดือน นที เรียมแสน จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี
ส่วน ธานี ทุมมาศ จำคุกรวม 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เปรมชัย ยงค์ และธานี ให้จำเลยทั้งสี่ ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แก่ผู้เสียหายรวม 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีด้วย
จากนั้น ศาลอนุญาตให้ประกันตัว เปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 ยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 และ ธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 โดยเพิ่มหลักทรัพย์อีกคนละ 2 แสนบาท ระหว่างฎีกา โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาต
ก่อนหน้านี้ เปรมชัย ยังถูกศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิพากษายืนจำคุก 1 ปีไม่รอลงอาญา กรณี เปรมชัย เสนอสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อไม่ต้องถูกดำเนินคดีล่าสัตว์ป่า ที่ เปรมชัย ถูกฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทําการ ไม่กระทําการ หรือประวิงการกระทําอันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 83 ในคดีร่วมกันล่าสัตว์ป่า และอื่นๆ ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
และยังมีคดีที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก เปรมชัย 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา กรณีมีอาวุธปืนยาวไรเฟิลไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ. 2490 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาเช่นกัน