เปิดประวัติมือล้วงกระเป๋าย่านประตูน้ำ เคยก่อเหตุ 9 คดี อ้างนำเงินไปใช้จ่ายและเล่นพนัน

ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคนร้ายล้วงกระเป๋าย่านประตูน้ำลงมือคนเดียว พร้อมขยายผลบ่อนพนันทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่อ้างว่านำเงินไปเล่นพนัน

พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุล้วงกระเป๋าผู้เสียหายได้เงินไป 9,000 บาท ที่ย่านประตูน้ำว่า จากการสอบสวนนางสาวนิภา อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ที่ฝ่ายสืบสวนไปจับกุมตัวได้บริเวณเพิงขายของไม่มีเลขที่ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 331 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายและเล่นพนัน

จากการตรวจประวัติเคยก่อเหตุมาแล้ว 9 ครั้ง แบ่งเป็นในพื้นที่ สน.พญาไท 6 ครั้ง สน.หัวหมาก 1 ครั้ง สน.นางเลิ้ง 1 ครั้ง และ สน.จักรวรรดิ 1 ครั้ง อีกทั้งยังเคยถูกจำคุกมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนเรื่องผู้ร่วมขบวนการ ผู้ต้องหาให้การวกวน ไม่ให้การซัดทอดไปบุคคลอื่น แต่ฝ่ายสืบสวนไม่ปักใจเชื่อ จะเร่งขยายผล พร้อมตรวจสอบบ่อนพนันที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่ามีจริงตามที่ได้ข้อมูลหรือไม่ ขณะที่วันนี้ทราบว่าพนักงานสอบสวนจะคุมตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงดุสิตในข้อหาลักทรัพย์

ส่วนเรื่องข้อมูลแก๊งมิจฉาชีพต่างชาติ ยังไม่พบความเคลื่อนไหว ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะเพิ่งเปิดประเทศ และผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ ยังไม่เข้ามาก่อเหตุในไทย อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้แต่ละพื้นที่ประชุมฝ่ายป้องกันปราบปราม เพื่อเฝ้าระวังข้อมูลการข่าว และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ไปเฝ้าระวังตามจุดต่างๆโดยเฉพาะสถานที่ที่มีประชาชนไปจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องปรามไม่ให้มิจฉาชีพลงมือกระทำผิดได้โดยง่าย