"อนุทิน" เดินหน้า "กัญชาริมฝั่งโขง" มุ่งสร้างอาชีพจากพืชสมุนไพรกัญชา

"อนุทิน" เดินหน้า "กัญชาริมฝั่งโขง" มุ่งสร้างอาชีพจากพืชสมุนไพรกัญชา

"อนุทิน" เดินหน้า "กัญชาริมฝั่งโขง" มุ่งสร้างอาชีพจากพืชสมุนไพรกัญชา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“อนุทิน”เป็นประธานในงาน Kick off กัญชาริมฝั่งโขง ต้นแบบการเชื่อมโยงกัญชาทางการแพทย์ กับส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น

 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขได้เป็นประธานในงานKick off กัญชาริมฝั่งโขง ที่ถนนสวรรค์ชายโขง หมู่บ้าน8ชนเผ่า อำเภอเมืองจังหวัดนครพนมซึ่งเป็นโครงการต้นแบบการเชื่อมโยงระหว่างกัญชาทางการแพทย์ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น เป็นอีกโมเดลเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกพืชกัญชาผู้ผลิตแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายขอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมที่กำหนดให้ทุกกระทรวงเร่งหาแนวทางที่จะกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวระหว่างการเป็นประธานในงานฯ ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมพืชสมุนไพรทั้งกัญชา กัญชง กระท่อมโดยให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกคิดค้นนโยบายเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างงานอาชีพให้ประชาชนทั้งในฐานะผู้ปลูกผู้ผลิตสินค้าสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์การแพทย์ทางเลือกในการรักษาโรค ผลจากนโยบายและการผลักดันที่จริงจัง ทำให้ขณะนี้ในโรงพยาบาลหลักๆ ทั่วประเทศก็มีคลินิกกัญชาที่ให้ประชาชนได้รับบริการอย่างทั่วถึงสารสกัดจากพืชกัญชาสามารถรักษา บรรเทาการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ได้

ทั้งนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศรายชื่อบัญชียาเสพติดฉบับใหม่ทั้ง 5 ประเภทโดยจะไม่มีกัญชาอยู่ในนั้น กำหนดให้สารสกัดกัญชาที่มีค่าเอสซีเกินกว่า02% เท่านั้นจึงจะเป็นยาเสพติดแต่หากเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมัน สารสกัด ผลิตภัณฑ์สบู่ เครื่องสำอาง อาหารเสริมที่มีค่าทีเอสซีต่ำกว่า 0.2% สามารถใช้ได้ทั้งหมดและนี่ไม่ใช่มาตรฐานที่สาธารณสุขหรือประเทศไทยกำหนดขึ้นมาเอง แต่องค์การอนามัยโลกก็กำหนดด้วยขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการแก้ไขกระบวนการทางกฎหมายเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการใช้ประโยชน์กัญชาให้มากที่สุด โดยได้ให้นโยบาย อย.ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักดูแลการอนุญาตปลูกรวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาให้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาขออนุญาตอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ฝากให้ทาง อสม. ไปแจ้งให้พี่น้องประชาชนในชุมชนได้ทราบว่าปัจจุบันโรงพยาบาลเกือบทุกแห่งมีคลินิกกัญชาเป็นการแพทย์แผนไทยทางเลือกในการดูแลประชาชนและหลังจากนี้ยาที่ผลิตออกมาจากสารสกัดกัญชาจะนำมาใช้อย่างถูกต้องอยู่ในบัญชียาหลักให้ประชาชนเข้าได้ผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช. ) ดูแลด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook