ศาลปากน้ำเบิกตัว6ผู้ต้องหาคดีลอบฆ่าองคมนตรี
ศาลสมุทรปราการ เบิกตัว 6ผู้ต้องหาคดีจ้างวานสังหารองคมนตรี ญาติจะร้องเอาผิดชุดจับกุม ศาลนัดฝ่ายจำเลยอีกมี.ค.53 คุมตัวจำเลยฝากขังต่อ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้(23 พ.ย.) ศาลจังหวัดสมุทรปราการ มีคำสั่งเบิกตัว นายภานุพงศ์ หรือกอล์ฟ รัตนาไพบูลย์ จำเลยที่ 1 นายศักดิ์ชาย หรือแบงค์ แซ่ลิ้ม จำเลยที่ 2 นายคมิก สุขภาญจนากาศ จำเลยที่ 3 พ.ต.เทียนชัย เมืองจันทึก จำเลยที่ 4 นายสุชาติ หรือ แจ๊ก ทรัพย์มณี จำเลยที่ 5 และ พ.จ.อ.สุกกรีย์ ขาวผ่อง จำเลยที่ 6 ผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันจ้างวานฆ่า นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี อดีตประธานศาลฎีกา และอดีต รมว.ยุติธรรม หรือฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามเลขคดีที่ อ.2819/52 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2552
โดยได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาจากเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ มาขึ้นศาลบัลลังก์ที่ 1 ห้องพิจารณาคดีที่ 1 ชั้น 2 ศาลอาญาจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อตรวจสอบเอกสารพยานโจทก์ และเอกสารหลักฐานในการกระทำผิดของผู้ต้องหาทั้งหมด โดยใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ทางฝ่ายโจทก์ได้มีการแถลงพยานเอกสารที่จะใช้ในการสืบพยานขออ้างต่อศาลและให้ฝ่ายจำเลยทั้งหกคนตรวจสอบ โดยฝ่ายโจทก์ได้มีการแถลงศาลถึงพยานหลักฐานที่มีต่อจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 จำนวน 91 รายการ
ขณะเดียวกันมีพยานหลักฐานจำนวน 8 รายการ ที่มีจำเลยที่ 3และจำเลยที่ 6 เข้ามาเกี่ยวข้อง หลังจากมีการพยานฝ่ายโจทก์ได้ยืนพยานหลักฐานเอกสารแถลงต่อศาลเสร็จสิ้น ศาลได้มีคำสั่งนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์อีกครั้ง ในเดือนมกราคม 2553 และมีนาคม 2553
โดยศาลได้มีการนัดสืบพยานฝ่ายจำเลยอีกครั้งในเดือน มีนาคม 2553 ก่อนควบคุมตัวจำเลยทั้ง 6 นำไปฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ
นายศุภโชค เมืองจันทึก อายุ 39 ปี น้องชายของ พ.ต.อ.เทียนชัย เมืองจันทึก หรือ ผู้พันอ๊อด ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 ผู้ต้องหาของคดีนี้ กล่าวว่า จนมาถึงขั้นนี้ก็ยังยืนยันว่าพี่ชายของตนเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว
สำหรับขั้นตอนของคดีนี้มีความสลับซับซ้อนหลายอย่าง จนทำให้เกิดความแคลงใจ ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีการพูดคุย และปรึกษากับในหมู่ญาติพี่น้องหลายคน จนกระทั่งได้รับข้อสรุปว่า จะมีการทำหนังสือร้องเรียนในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ของ นายตำรวจยศ พันตำรวจโทคนหนึ่ง ซึ่งทราบว่ามีชื่อเรียกกันว่า รองยาวแต่ตนยังไม่ทราบว่าเป็นตำรวจของหน่วยงานใด เนื่องจากมีชุดจับกุมหลายชุด โดยได้เตรียมหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ช. และ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สภาผู้แทนราษฎร
อย่างไรก็ตามตนมีข้อมูลเบื้องลึกที่สามารถยืนยันได้ว่าพี่ชายของตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว และมีหลักฐานสำคัญแต่ยังสามารถเปิดเผยอะไรได้มากนัก
ด้าน นายจตุรงค์ เสริมสุข ทนายความของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ ในวันนี้ ศาลได้มีการนัดโจทก์และจำเลย เพื่อมาตรวจสอบพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์ที่ใช้อ้างอิงในการพิจาณาคดี หลังจากที่โจทก์เป็นฝ่ายยื่นฟ้องจำเลยทั้งหมด ซึ่งศาลได้รับเอกสารหลักฐาน และมีการนัดสืบพยาน ในช่วงต้นปีหน้านั้น ตนเองไม่รู้สึกหนักใจ
หลังจากที่มีการตรวจสอบรายละเอียดทางคดี พบว่ามีช่องทางที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าลูกความของตนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ด้าน นายฐิติ ฤทธิ์กระจ่าง ทนายความฝ่ายจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 6 กล่าวว่า ตนเองรู้สึกหนักใจพอสมควร เพราะเป็นคดีอาญาอุกฉกรรจ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวน แต่ปฏิเสธในชั้นศาล ซึ่งจะต้องมีการต่อสู้คดีและนำพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือมาหักล้างกันให้ได้มาก