สถานทูตจีนย้ำความสัมพันธ์ไทยแน่นแฟ้น ถวาย "ซิโนฟาร์ม" 2 แสนโดสแด่ราชวงศ์ไทย
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา วัคซีนซิโนฟาร์มจำนวน 2 แสนโดส อีกหนึ่งลอตบริจาคจากรัฐบาลจีนเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย สื่อสารผ่านทางเฟซบุ๊กว่า รัฐบาลจีนถวายวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 แสนโดส แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พร้อมระบุว่า จนถึงขณะนี้ จีนได้ส่งมอบวัคซีนให้ไทยแล้วทั้งหมด 50.35 ล้านโดส
"วอยซ์ ออนไลน์" ติดต่อสถานทูตจีนเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีนบริจาคครั้งนี้ ว่าเพราะเหตุใดการบริจาคครั้งนี้จึงเป็นการถวายราชวงศ์ไทยโดยตรง ซึ่งแตกต่างไปจากลอตอื่นๆ ที่บริจาคผ่านทางรัฐบาลไทย และการบริจาควัคซีนแต่ละครั้งขั้นตอนเป็นอย่างไร การตัดสินใจบริจาคมาจากทางรัฐบาลจีนเอง หรือมีการร้องขอจากรัฐบาลหรือราชวงศ์ไทย
วันนี้ (13 ธ.ค.) วอยซ์ได้รับการตอบกลับจากสถานทูตจีน ตอบคำถามข้างต้นดังนี้
"มิตรภาพจีน-ไทยมีมาช้านาน นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตเมื่อ 46 ปีที่แล้ว ทั้งสองประเทศได้ผ่านพ้นความยากลำบากด้วยการสนับสนุนซึ่งกันและกัน
ปีที่แล้ว ไทยเป็นผู้นำในการแสดงความเห็นอกเห็นใจ ความสามัคคี และให้การสนับสนุน บริจาคอุปกรณ์บรรเทาโรคระบาดอันให้กับจีน ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ในประเทศไทย จีนที่เอาชนะความยากลำบากของตนเองได้แล้ว และตามคำขอของฝ่ายไทย จึงจัดหาวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับประเทศไทยอย่างทันท่วงที
นี่เป็นการร่วมมือกันของทั้งสองประเทศในยามยากลำบาก จีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า วัคซีนและสิ่งบรรเทาทุกข์จากจีนจะสามารถช่วยไทยให้ได้รับชัยชนะในการต่อสู้กับโรคระบาด การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตลอดจนฟื้นฟูสุขภาพและความปลอดภัยให้กับประชาชน"
ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนจากหลายประเทศ แต่เป็นการบริจาคผ่านรัฐบาลไทย ข้อมูลจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระบุว่า ประเทศดังกล่าวได้แก่ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม จีนเป็นประเทศที่บริจาควัคซีนให้ไทยมากที่สุด