เทียบฟอร์ม "ชัชชาติ-รสนา-สุชัชวีร์" พกดีกรีไม่น้อยหน้า สู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
เทียมฟอร์มของว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ซึ่ง ณ ปัจจุบันต้องบอกเลยว่าทั้ง "ชัชชาติ-รสนา-สุชัชวีร์" พกเอาดีกรีมาแบบไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว
ประกาศเป็นทางการไปแล้วสำหรับ "ดร.เอ้" ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ธ.ค.) พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ในฐานะว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองแรกในการเปิดตัวแคนดิเดตของพรรคเพื่อลงสู้ศึกในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ เมืองหลวง
สำหรับ "สุชัชวีร์" นั้นถือได้ว่าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 3 ต่อจาก "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" และ "รสนา โตสิตระกูล" ในนามว่าที่ผู้สมัครอิสระ ซึ่งมีการเปิดตัวไปแล้วมากกว่า 1 ปี ในขณะที่เมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ ปทุมธานี เจ้าของฉายา "ผู้ว่าฯ หมูป่า" ประกาศชัดเจนว่าไม่ขอลงประลองกำลังในศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จนทำเอาบรรดามิตรรักแฟนคลับของพรรคพลังประชารัฐผิดหวังกันไปตามๆ กัน
เอาล่ะ เรามาลองกางโปรไฟล์ของ 3 ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. กันเลยว่าน่าสนใจขนาดไหน
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
อดีตหนึ่งในสามรายชื่อแคนดิเดตบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
สำเร็จปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธา (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโครงสร้าง จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology : MIT) และวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ สหรัฐอเมริกา ด้วยทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ประจำปี 2530
"ชัชชาติ" เริ่มเข้าสู่แวดวงการเมืองในฐานะนักวิชาการ โดยเข้ามาช่วยงานและให้คำปรึกษากับกระทรวงคมนาคมในสมัยรัฐบาลทักษิณ 2 และรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ต่อมาในปี 2555 ได้รับการทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในเดือน ม.ค. 2555 จากนั้นได้รับแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นเจ้ากระทรวงคมนาคม ในเดือน ต.ค. 2555
ในโลกออนไลน์ ได้ความนิยมจากรูปภาพ "ชัชชาติ" เดินเข้าไปทำบุญใส่บาตรภายในวัดแห่งหนึ่งที่ จ.สุรินทร์ โดยสวมเสื้อแขนกุดหิ้วถุงอาหาร และเดินด้วยเท้าเปล่า ภาพดังกล่าวมีการแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว มีผู้คนตัดต่อภาพล้อเลียนมากมาย จนทำให้เกิดเป็นฉายา "รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี"
สำหรับสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นั้น "ชัชชาติ" ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยในช่วงปลายปี 2552 หลังจบการเลือกตั้งใหญ่ โดยมีการเปิดตัวกิจกรรมเป็นครั้งแรกในธีม "ชัชชาติชวนคุย คนกรุงเทพฯ ช่วยคิด" เพื่อต่อยอดเป็นนโยบายการพัฒนากรุงเทพฯ เพื่อลงเลือกตั้งในนามผู้สมัครอิสระ พร้อมกับฟอร์มทีมและขับเคลื่อนภายใต้ชื่อกลุ่ม "เพื่อนชัชชาติ"
จากนั้นตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ชัชชาติ" ตระเวนลงพื้นที่หลายเขตของกรุงเทพฯ เพื่อเก็บข้อมูลจัดทำนโยบายเตรียมลงเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเปิดตัว ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ "ดร.ยุ้ย" มาเป็นทีมนโยบายเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยใช้สโลแกนหาเสียงว่า "มาช่วยสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน"
รสนา โตสิตระกูล
อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร (ส.ว.กทม.) ที่ได้รับคะแนนการเลือกตั้งมากที่สุดจาก ส.ว.ทั่วประเทศในปี 2551 อยู่ที่ 743,397 คะแนน ในขณะที่ดีกรีด้านการศึกษาของ "รสนา" นั้น จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม และจบปริญญาตรีจากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2517
ที่ผ่านมาบทบาท "รสนา" เป็นนักต่อสู้เรื่องสิทธิผู้บริโภค สิทธิประชาชน เคยดำรงตำแหน่งหลากหลาย อาทิ เลขาธิการมูลนิธิสุขภาพไทยกรรมการอิสระ แกนนำเครือข่าย 30 องค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อผู้บริโภคกรรมการเตรียมการจัดตั้งสภาพัฒนาการเมือง และยกร่างแผนแม่บทพัฒนาการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
"รสนา" ยังเคยเป็นกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามกระบวนการและมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค (2 สมัย)
โดยเฉพาะในปี 2547 เป็นหนึ่งในแกนนำเคลื่อนไหวล่ารายชื่อ 50,000 รายชื่อ เพื่อยื่นตรวจสอบการทุจริตยาของกระทรวงสาธารณสุข จนเป็นเหตุให้นายรักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในขณะนั้น ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 15 ปี และถูกยึดทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 233.8 ล้านบาท รวมเวลาการเคลื่อนไหวกว่า 6 ปี ถือเป็นคดีทุจริตของนักการเมืองคดีแรกในประวัติศาสตร์การเมืองในบ้านเราเลยทีเดียว
สำหรับเส้นทางเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นั้น "รสนา" เปิดตัวเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2562 ประกาศจะลงสู้ศึกในนามผู้สมัครอิสระ "ตัวจริง" ใช้สโลแกนหาเสียงว่า "กทม.มีทางออก บอกรสนา" โดยใช้ยุทธศาสตร์หาเสียงเน้นไปที่การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ที่เพิ่งไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งไปหมาดๆ เพื่อก้าวเข้าสู่สนามถนนการเมือง ในฐานะว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวจากพรรคการเมืองคนแรกในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ เมืองหลวงในครั้งนี้ โดยใช้สโลแกนหาเสียงว่า "เปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้"
สำหรับประวัติการศึกษาของ "ดร.เอ้" ถือว่าไม่ธรรมดาคนหนึ่งเลยทีเดียว จบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมโยธา) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จบปริญญาโท นโยบายและเทคโนโลยี Massachusetts Institute of Technology (MIT) สหรัฐฯ ส่วนปริญญาโทอีกใบจาก วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม) The University of Wisconsin-Madison และปริญญาเอกวิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม) Massachusetts Institute of Technology (MIT)
พรรคประชาธิปัตย์ สรุปจุดขายของ "ดร.เอ้" ในการสัประยุทธ์ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่กำลังจะมีขึ้นหลังจากนี้ว่า เป็นศาสตราจารย์ด้านการก่อสร้างใต้ดินและอุโมงค์คนแรกของไทยเมื่ออายุเพียง 37 ปี เป็นอธิการบดีที่อายุน้อยที่สุดในประเทศด้วยวัยเพียง 43 ปี รวมทั้งผลงานจากโปรเจกต์จบปริญญาตรีเรื่องงานวิจัยออกแบบรถไฟฟ้าใต้ดินเส้นแรกของไทย สู่การเป็น 1 ในทีมผู้สร้างรถไฟฟ้าใต้ดินเส้นแรกของไทย
นอกจากนี้ ยังเคยเป็นนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 7 สมัย และเป็นชาวอาเซียนเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลระดับโลก Eisenhower Fellows 2013 ด้านวิศวกรรมเทคโนโลยี ในฐานะผู้นำยุคใหม่ของโลก เคยร่วมงานกับ Herbert Einstein หลายชายของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ด้านอัลกอริทึม AI
ขณะเดียวกันยังเป็นผู้นำทีมก่อสร้างโครงการ “แก้มลิงใต้ดิน” แห่งแรกในไทย ณ วัดมังกรกมลาวาส แก้ปัญหาน้ำท่วมเพื่อคนกรุงเทพฯ รวมทั้งยังได้รับฉายาว่า “The Disruptor เมืองไทย” มีแฮชแท็กประจำตัว #จะทำก็ทำได้